ส่งออกพ.ย.หดตัว 6% แย่กว่าคาด เสี่ยงร่วงต่อไปปี 66

HoonSmart.com>>พาณิชย์รายงานตัวเลขส่งออกพ.ย.หดตัวต่อ -6% แย่กว่าคาด บล.หยวนต้ามองไก่สดแช่เย็นแช่แข็ง, น้ำตาลทราย, เครื่องดื่ม, รถยนต์+รถจักรยานยนต์,ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์เริ่มกลับมาเร่งตัวขึ้น เป็นบวก ต่อ GFPT, PLUS, HANA, KCE   ส่วนอาหารสัตว์เลี้ยงพลิกกลับมาชะลอลง เป็นลบต่อ ITC, AAI

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า การส่งออกเดือนพ.ย.2565 มีมูลค่า 22,308 ล้านดอลลาร์ ลดลง 6.0% จากเดือนเดียวกันของปีก่อน (YoY) ขณะที่การนำเข้ามีมูลค่า 23,650 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 5.6% ส่งผลให้ไทยขาดดุลการค้า 1,342 ล้านดอลลาร์

ส่วนการส่งออกรวม 11 เดือนแรกปีนี้ (ม.ค.-พ.ย.2565) มีมูลค่า 265,349 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 7.6% การนำเข้ามีมูลค่า 280,438 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 16.3% ส่งผลให้ขาดดุลการค้ารวม 15,088 ล้านดอลลาร์

ปัจจัยเสี่ยงสำคัญต่อการส่งออกในช่วงท้ายปีนี้ต่อเนื่องไปจนถึงปี 2566 คือ 1. ภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว 2. เงินเฟ้อทั่วโลกยังอยู่ในระดับสูงกว่าเป้าหมาย อีกทั้งอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางในแต่ละประเทศยังเป็นขาขึ้นไปจนถึงปีหน้า และ 3.ปัญหาความขัดแย้งระหว่างประเทศที่ยังคงมีอยู่

บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ยอดส่งออกเดือนพ.ย. 2565 ลดลง -6.0% ถือเป็นการลดลงแบบ YoY ต่อเนื่องเดือนที่ 2 และแย่กว่าตลาดคาดที่ -5.2% YoY

กลุ่มสินค้าที่ยังโตดีคือ ไก่สดแช่เย็นแช่แข็ง, น้ำตาลทราย, เครื่องดื่ม, รถยนต์+รถจักรยานยนต์ และส่วนประกอบ รวมถึง ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ที่เริ่มกลับมาเร่งตัวขึ้นอีกครั้ง (เป็นบวกเชิง Sentiment ต่อ GFPT, PLUS, HANA, KCE)

ส่วนสินค้าที่พลิกกลับมาชะลอตัว คือ อาหารสัตว์เลี้ยง (เป็นลบเชิง Sentiment ต่อ ITC, AAI)

ขณะเดียวกันดุลการค้าขาดดุล -1,342 ล้านดอลลาร์ กลับมาติดลบหนักสุดในรอบ 3 เดือน จากการนำเข้าที่ +5.6% YoY อย่างไรก็ตามคาดว่าดุลบัญชีเดินสะพัดเดือน พ.ย.ยังเป็นบวกต่อเนื่องเดือนที่ 3 จากภาพการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวชัดเจน ซึ่ง ธปท. จะเปิดเผยวันที่ 30 ธ.ค. 2565

ด้านบล.ทรีนีตี้มองว่า มูลค่าส่งออกหดตัวแย่กว่าตลาดคาดที่ 5.7%  มองจะเป็น Sentiment ลบโดยรวมต่อกลุ่มส่งออกโดยรวม จึงยังคงมองว่าเป็นกลุ่มที่มี Downside risk ต่อไปในปี 2566 จากความเสี่ยงจากเศรษฐกิจโลกขาลง แนะนำ Underweight ต่อไป