ครม.แจกของขวัญ ‘หุ้นค้าปลีก’ กลุ่มพลังงานถูกทิ้งไม่เลิก

HoonSmart.com>>ครม.นัดแจกของขวัญ 20 ธ.ค.ทุกกระทรวงเสนอมาตรการช่วยลดค่าครองชีพแก่ประชาชน ลุ้นช้อปดีมีคืน หนุนหุ้นค้าปลีกวิ่งรับข่าว CRC เล็งกำไรปี 65-66 โตแรง ได้เปิดประเทศช่วยเสริมอีกทาง บล.ฟินันเซีย ไซรัสชี้เป้า 45 บาท ส่วนกลุ่มพลังงานถูกถล่มหนัก ทั้งปิโตร-โรงกลั่น PTTEP ร่วง 3.77% บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบีฯแนะซื้อเก็งกำไร  รอราคารีบาวด์ 

ตลาดหุ้นวันที่ 20 ธ.ค. ดัชนีแแกว่งขึ้นลงแคบๆ ปิดที่ระดับ 1,618.20 จุดลดลง 0.81 จุดหรือ -0.05% โดยมีแรงขายหุ้นกลุ่มพลังงาน นำโดย PTTEP ปิดที่ 166 บาท ร่วงลง 3.77% ขณะเดียวกันมีแรงซื้อหุ้นกลุ่มค้าปลีก อาทิ CRC โดดเด่น ปิดที่ 45 บาทพุ่งขึ้น +2.86%

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เปิดเผยว่า ในวันพรุ่งนี้ (20 ธ.ค.) แต่ละกระทรวงจะเสนอแพ็คเกจของขวัญที่จะมอบให้กับประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณา ส่วนกรณีที่มีข้อกังวลเรื่องการปรับขึ้นอัตราค่าไฟฟ้าผันแปร (Ft) ในปี 2566 นั้น พยายามจะให้เดือดร้อนน้อยที่สุด  เมื่อต้นทุนการผลิตไฟฟ้าสูงขึ้น

ส่วนกรณีมีข้อกังวลเกี่ยวกับฐานะการเงินการคลังของประเทศนั้น ยืนยันว่ายังมีสถานะดีอยู่ ซึ่งได้รับความเชื่อมั่นและเชื่อถือจากองค์กรต่างประเทศ และขอให้ทุกคนใจเย็นๆ รัฐบาลกำลังทำให้ดีที่สุด ทุกคนก็รู้ว่าช่วงนี้ปัญหามีเยอะ แต่ยังโชคดีที่หลายๆ อย่างดีขึ้น รวมถึงการจับจ่ายใช้สอยก็ดีขึ้น

“ขณะนี้ยังมีคนที่ลำบากอยู่ รัฐบาลก็จำเป็นจะต้องหามาตรการที่เหมาะสม เพื่อรักษาเสถียรภาพการเงินการคลังให้ดี โดยย้ำว่าสถานะการเงินการคลังของประเทศถือว่าดีมากๆ ถ้าเทียบกับที่อื่น ที่ไปยุโรปมาก็ได้รับคำชื่นชม”พล.อ.ประยุทธ์

นายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า ราคาหุ้นบริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น (CRC) ปรับตัวขึ้น ด้วยวอลุ่มเทรดที่เข้ามาอย่างคึกคัก คาดว่าจะเป็นการเข้ามาเล่นเก็งกำไรของนักลงทุน เนื่องจากเป็นหุ้นที่ได้รับประโยชน์จากการเปิดเมือง เปิดประเทศ อีกทั้งยังจะได้รับแรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ ที่คาดว่าจะพิจารณาและอนุมัติมาตรการช้อปดีมีคืนในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในสัปดาห์นี้ด้วย

ในแง่ปัจจัยพื้นฐานแนะนำ”ซื้อ”หุ้น CRC ราคาเป้าหมาย 45 บาท คาดว่ากำไรปี 65 จะเติบโตก้าวกระโดด โดยคาดกำไรสุทธิ 5,500 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 64 ที่มีกำไรสุทธิ 59 ล้านบาท รับประโยชน์จากการเปิดเมือง เปิดประเทศ

ด้านนายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์รายย่อย บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ราคาหุ้นในกลุ่มพลังงานปรับตัวลง ได้รับแรงกดดันจากหลายปัจจัย โดยเฉพาะเรื่องข่าวกองทุน Pension Fund ของรัฐบาลนอร์เวย์ ได้ตัดสินใจนำหุ้น PTT และ OR ออกจากการลงทุน เนื่องจากมีความเสี่ยงที่ทั้งสองบริษัทอาจมีการลงทุนที่เข้าข่ายสนับสนุนรัฐบาลทหารเมียนมาทางอ้อม ขัดกับแนวปฏิบัติของกองทุน ตามความเห็นของคณะกรรมการจริยธรรมกองทุน(Council of Ethics) เมื่อวันที่ 10 พ.ค.2565 ซึ่งสร้างความกังวลกองทุนของประเทศอื่นจะ Action เช่นเดียวกันด้วยหรือเปล่า ทำให้ปัจจัยนี้ส่งผลกระทบต่อหุ้นในกลุมปตท.

นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังปรับตัวลง 2.4% กดดันหุ้นในกลุ่มพลังงานด้วย หลังจากที่ตัวเลข PMI ของสหรัฐออกมาต่ำสุดในรอบ 4 เดือน รวมถึงธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยังเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ย ทำให้ราคาน้ำมันปรับตัวลง กระทบหุ้น PTTEP

ด้านกลุ่มโรงกลั่นก็มีความเสี่ยงที่อาจจะขาดทุนจากสต็อกน้ำมัน และค่าการกลั่นล่าสุดก็ปรับลงมาอยู่ที่ 9.68 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล จากก่อนหน้าที่อยู่ 10.14 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล

ดังนั้นจึงแนะนำ”ซื้อเก็งกำไร”เนื่องจากราคาหุ้นในกลุ่มพลังงานมีโอกาสรีบาวด์กลับขึ้นมาได้ หากประเด็นต่าง ๆ คลี่คลาย และราคาน้ำมันมีการรีบาวด์กลับขึ้นมาได้