HoonSmart.com>>ในปี 2565 ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) มีหุ้นเข้าใหม่จำนวน 20 บริษัท ณ วันที่ 15 ธ.ค. ราคาวันแรก มีทั้งสอบตกและสอบได้คะแนนดี สำหรับหุ้นขนาดใหญ่และเก่าแก่ทั้ง 3 บริษัท คือ TLI-BTG-ITC ปัจจุบันยังคงต่ำกว่าราคาขาย IPO
ส่วนบริษัทที่เข้าตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ (mai) จำนวน 16 บริษัท แจกกำไรกันถ้วนหน้า โดยเฉพาะ 24 CS เร้าใจมาก วันแรกราคาพุ่งกระฉูด 200% ปิดที่ 10.20 บาท วันรุ่งขึ้นไล่ขึ้นไปแตะ 11.10 บาท ก่อนทิ้งลงมาฟลอร์ 30% ปิดตลาดที่ 7.15 บาท แต่ก็ยังสูงกว่าวันนี้ที่เหลือ 3.16 บาท ใครยังกอดหุ้นอยู่ ขาดทุนแล้ว 7.65% เทียบกับ IPO ที่ 3.40 บาท ในช่วงนี้หุ้น IPO ที่เข้าซื้อขายได้รับผลกระทบจากตลาดโดยรวมไม่สดใส นักลงทุนที่จะเข้าไปลุย จะต้องระวังตัวให้ดี!!!
บริษัทเข้าซื้อขายใน SET 20 บริษัท และบริษัท สตาร์ มันนี่ (SM) ได้ฤกษ์เข้า 20 ธ.ค.นี้ รวม 21 บริษัท ถือว่าจำนวนใกล้เคียงกับปี 2564 ที่มีทั้งหมด 20 บริษัท ในปี 2565 TLI มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (มาร์เก็ตแคป) ณ ราคา IPO มากที่สุด 183,200 ล้านบาท ตามด้วย ITC มูลค่า 96,000 ล้านบาท และ BTG มูลค่า 77,392 ล้านบาท มีประวัติการทำธุรกิจมายาวนาน แต่หุ้นกลับสร้างความผิดหวังให้แก่นักลงทุน แม้พยายามจะตีตื้นขึ้นมาบ้างในบางช่วง แต่ขณะนี้ยังคงต่ำกว่า IPO โดยมีหุ้น JDF เป็นพระเอก ให้ผลตอบแทนสูงถึง 111.54% ปิดที่ 5.50 บาทเทียบกับ IPO ที่ 2.60 บาท หากใครถือลงทุนถึงวันนี้เหลือผลตอบแทน 16.92%
ส่วนบจ.เข้า mai จำนวน 16 บริษัท และบริษัท เคที เมดิคอล เซอร์วิส (KTMS) เพิ่งเคาะราคาขายที่ 3.10 บาท จะเข้าเทรด 23 ธ.ค.นี้ ขณะที่ปี 2564 มีจำนวน 18 บริษัท โดย KLINIQ มีมาร์เก็ตแคปมากที่สุด 5,390 ล้านบาท ตามด้วย PRI 4,800 ล้านบาท และ KCC มูลค่า 2,294 ล้านบาท
บรรยากาศวันแรกแจกกำไรให้แก่คนจองหุ้นได้ มีเพียง BLIESS ปิดเท่ากับราคาเสนอขายที่ 1.40 บาท มาถึงวันนี้ต่ำกว่าราคาจอง 6 บริษัท โดยเฉพาะ BLIESS ใครยังไม่ขาย ขาดทุน 32.86% P/E ลดลงเหลือ 14.75 เท่า จาก IPO 18.78 เท่า สวนทางกับ PRI วันแรกแจกกำไร 28% ปัจจุบันได้กำไรเพิ่มขึ้นเป็นเฉียด 50% แนวโน้มยังมีโอกาสไปต่อ ธุรกิจมีการเติบโต ได้ดีจากการเป็นบริษัทในกลุ่ม ORI ที่มีการขยายธุรกิจส่งต่อให้ลูกๆ สร้างความแข็งแกร่งก่อนส่งเข้าตลาดหลักทรัพย์ สร้างผลตอบแทนกลับคืนให้บริษัทแม่ใหญ่ยิ่งขึ้น