HoonSmart.com>>TAKUNI เดินหน้าธุรกิจมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า บุกตลาดไต้หวัน-มาเลเซีย-ไทย เริ่มขายต้นปี 66 ส่วนตลาดอินโดนีเซียเริ่มขายปลายปี 66 คาด 3 ปียอดขาย 5 หมื่นคัน ตั้งเป้าธุรกิจมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าเป็นรายได้หลัก 60% ภายใน 3 ปี ขณะที่สัดส่วนรายได้จากธุรกิจก่อสร้างจะลดจาก 80% ในปัจจุบันเหลือ 40% ใน 3 ปีข้างหน้า
นางสาวนิตา ตรีวีรานุวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทาคูนิ กรุ๊ป หรือ TAKUNI เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการเมื่อวันที่ 15 ธ.ค.ที่ผ่านมา ได้มีมติอนุมัติการปรับโครงสร้างคณะกรรมการบริษัทใหม่ โดยแต่งตั้งนายชาติชาย พยุหนาวีชัย เป็นประธานกรรมการบริษัท และเป็นประธานกรรมการบริหาร เพื่อรองรับโครงสร้างธุรกิจใหม่ที่มีการปรับเปลี่ยนไปสู่ธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบ โดยตั้งเป้าว่าภายใน 3 ปี รายได้จากธุรกิจมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าจะมีสัดส่วน 60% ของรายได้รวม ขณะที่รายได้จากธุรกิจก่อสร้างจะลดสัดส่วนลงเหลือ 40% จากปัจจุบันเป็นสัดส่วน 80%ของรายได้รวม
กลุ่มทาคูนิให้ความสนใจในธุรกิจมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า เนื่องจากทุกประเทศหันมาให้ความสนใจในพลังงานสะอาดมากขึ้นซึ่งเป็นไปตามเทรนด์ของโลก ทำให้ทุกประเทศมีเป้าหมายปรับเปลี่ยนการใช้รถมอเตอร์ไซค์ที่ใช้น้ำมันมาเป็นรถที่ใช้ไฟฟ้า เพื่อร่วมกันแก้ปัญหาเรื่องโลกร้อน และที่สำคัญรถไฟฟ้ามีค่าใช้จ่ายที่ถูกกว่าใช้น้ำมัน ทำให้รัฐบาลของแต่ละประเทศสนับสนุนค่าใช้จ่าย เช่น ในประเทศไทย มาเลเซีย อินโดนีเซีย และไต้หวัน
บริษัทได้ร่วมถือหุ้น 40% ในบริษัทอี้หาวมอเตอร์ (Yihao motor) เป็นบริษัทชั้นนำของไต้หวัน และได้ partner กับบริษัทRitek ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ไต้หวัน เพื่อพัฒนาและผลิตมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า และแบตเตอรี่เทคโนโลยีใหม่ ที่สามารถยกออกจากรถมอเตอร์ไซด์ เพื่อนำไปชาร์ตกับไฟฟ้าภายในบ้านได้
สำหรับการผลิตมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า และแบตเตอรี่ จะดำเนินการผลิตที่โรงงานในไต้หวัน โดยบริษัทวางแผนผลิตและออกจำหน่ายในไต้หวันภายในไตรมาส 1 ของปีหน้า โดยรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าของบริษัทได้ผ่านการทดสอบ และได้รับอนุญาตจากรัฐบาลไต้หวันให้สามารถขอป้ายทะเบียนรถได้
นอกจากนี้ บริษัทยังได้ร่วมมือกับบริษัท Sersol ซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำในตลาดหลักหลักทรัพย์ประเทศมาเลเซีย เมื่อเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา เพื่อร่วมทุนผลิตและจัดจำหน่ายมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า และสถานีชาร์ตไฟฟ้าในประเทศไทยและมาเลเซีย โดยจะจัดตั้งบริษัท บริษัท Sersol Takuni (M) ในประเทศมาเลเซีย บริษัท ทาคูนิ ถือหุ้น 49% และ บริษัท Sersol ถือหุ้น 51% และตั้ง บริษัท Sersol Takuni (Thailand) ในประเทศไทย บริษัท ทาคูนิ ถือหุ้น 51% บริษัท Sersol ถือหุ้น 49% ซึ่งคาดว่ากระบวนการจัดตั้งบริษัทจะดำเนินการแล้วเสร็จภายในเดือนธันวาคมนี้ และเริ่มดำเนินงานได้ในต้นปี 66
นางสาวนิตา กล่าวอีกว่า สำหรับในประเทศไทย บริษัทจะเป็นผู้นำเข้าชิ้นส่วนสำคัญจากไต้หวันเพื่อมาประกอบรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า โดยจะร่วมมือกับพันธมิตร (partner) ที่เป็นโรงงานประกอบรถมอเตอร์ไซด์ชั้นนำของไทย
นางสาวนิตากล่าวว่า ปีหน้ากลุ่มทาคูนิมีความพร้อมในการร่วมมือกับพันธมิตร เพื่อผลิตและจัดจำหน่ายมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าทั้งในประเทศไทย ไต้หวัน มาเลเซีย ในปี 66 และในอินโดนีเซียจะพร้อมจำหน่ายในปลายปี 66 โดยบริษัทตั้งเป้าหมายยอดขาย 5 หมื่นคันภายใน 3 ปี
“ปัจจุบันในประเทศไทยมีจำนวนรถมอเตอร์ไซค์รวมกันราว 25 ล้านคัน หากในอีก 10 ปีข้างหน้ามีการปรับเปลี่ยนมาใช้รถไฟฟ้าเฉลี่ยปีละ 2.5 ล้านคัน เพียงแค่เรามีส่วนแบ่งตลาดตรงนี้ 5-10% เท่ากับเรามียอดขายถึง 1.5-2.5 แสนคัน เช่นเดียวกับในประเทศมาเลเซีย ที่ปัจจุบันรถมอเตอร์ไซค์มีจำนวนมาก และไต้หวันก็มีถึง 4 แสนคันที่ต้องปรับเปลี่ยนมาใช้รถไฟฟ้า รวมถึงอินโดนีเซียที่มีจำนวนรถมอเตอร์ไซค์จำนวนมากอีกด้วย” นางสาวนิตากล่าว
#TAKUNI