HoonSmart.com>>ตลาดหุ้นเช้านี้ลบ 7 จุด บรรยากาศทั่วโลกค่อนข้างเป็นลบ จาแรงกดดันกังวลเศรษฐกิจถดถอยหลังยอดค้าปลีกและผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนพ.ย.ทั้งของสหรัฐ-จีนออกมาต่ำกว่าคาด สะท้อนผลกระทบเงินเฟ้อสูงที่เริ่มส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ เงินไหลออกจากตลาดหุ้นถือครองดอลลาร์มากขึ้น โดยตลาดจับตาสถานการณ์เศรษฐกิจมากขึ้น
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์วันที่ 16 ธ.ค.2565 ณ เวลา 9.58 น. อยู่ที่ระดับ 1,613.28 จุด ลดลง 7.00 จุด หรือ -0.43% มูลค่าซื้อขาย 2,307.22 ล้านบาท
บล.ฟินันเซีย ไซรัส มอง SET Index แกว่ง Sideways Down ตามบรรยากาศการลงทุนทั่วโลกที่ค่อนข้างเป็นลบ โดยมีแนวรับหลักระยะสั้นเดิมที่ 1,610 จุด ตลาดเผชิญแรงกดดันจากความกังวลทิศทางเศรษฐกิจโลกในปีหน้าที่เสี่ยงเกิดภาวะถดถอย (Recession) หลังตัวเลขเศรษฐกิจทั้งยอดค้าปลีกและผลผลิตภาคอุตสาหกกรมเดือน พ.ย. ของทั้งสหรัฐฯและจีนที่ออกมาต่ำกว่าคาด สะท้อนผลกระทบของเงินเฟ้อที่สูงในช่วงเกือบ 1 ปีที่ผ่านมาที่เริ่มส่งผลต่อเศรษฐกิจ เม็ดเงินจึงไหลออกจากตลาดหุ้นถือครองดอลลาร์มากขึ้น รวมถึงเข้าซื้อพันธบัตรสังเกตได้จากอัตราผลตอบแทนพันธบัตร (Bond Yield) สหรัฐฯที่ไม่ได้ขยับขึ้นตาม Dollar Index เหมือนกับที่เกิดขึ้นในช่วงก่อนหน้า สะท้อนว่าตลาดเริ่มให้น้ำหนักการปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางน้อยลง แต่หันมาจับตาสถานการณ์เศรษฐกิจมากขึ้น
ด้านธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) และธนาคารกลางยุโรป (ECB) วานนี้ปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.5% ตามคาดและยังมีแนวโน้มปรับขึ้นต่อเนื่องเพื่อสกัดเงินเฟ้อที่ยังอยู่ในระดับสูงราว 10% อย่างไรก็ตามเรายังมองเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียยังดูแข็งแรงโดยเฉพาะอาเซียนและเสี่ยงต่ำกว่าฝั่งตะวันตก ไทยยังคงมีปัจจัยขับเคลื่อนหลักจากการบริโภคในประเทศและการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวและคาดได้ประโยชน์จากจีนที่มีแนวโน้มทยอยผ่อนคลายมาตรการคุมโควิด-19 ต่อเนื่อง รวมถึงการหาเสียงเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในต้นปีหน้า ซึ่งจะชดเชยภาคการส่งออกที่มีความเสี่ยงชะลอจากเศรษฐกิจโลก กลยุทธ์จึงยังเน้นลงทุนโดยเฉพาะกลุ่ม Domestic และ Consumption Play เป็นหลัก
5 อันดับหุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่
PTT อยู่ที่ 31.25 บาท ลดลง 0.25 บาท หรือ -0.79% มูลค่าซื้อขาย 264.30 ล้านบาท
PTTEP อยู่ที่ 170.50 บาท ลดลง 2.50 บาท หรือ -1.45% มูลค่าซื้อขาย 242.38 ล้านบาท
PLANB อยู่ที่ 7.60 บาท เพิ่มขึ้น 0.05 บาท หรือ +0.66% มูลค่าซื้อขาย 88.29 ล้านบาท
DELTA อยู่ที่ 706.00 บาท ลดลง 6.00 บาท หรือ -0.84% มูลค่าซื้อขาย 73.22 ล้านบาท
AOT อยู่ที่ 73.00 บาท ลดลง 0.25 บาท หรือ -0.34% มูลค่าซื้อขาย 69.02 ล้านบาท