HoonSmart.com>>หุ้น DTCENT ปิดเทรดวันแรกที่ 2.48 บาท ต่ำกว่าราคาขาย IPO 13.29% บล.โกลเบล็ก คาดผลงานปี 65-66 โตเฉลี่ย CAGR 46% ต่อปี สู่ 106 ล้านบาท และ 165 ล้านบาท ตามลำดับ จากธุรกิจ GPS Tracking ฟื้นตัวตามสถานการณ์โควิด-19 ที่คลี่คลายลง และรายได้จากกลุ่มบริษัทย่อยที่จำหน่าย Software และ Application ใหม่ปีนี้ รวมทั้งกลุ่มงาน IoT Solution ของภาครัฐเริ่มเปิดประมูลมากขึ้น
หุ้น DTCENT ปิดเทรดวันแรกที่ 2.48 บาท ลดลง 0.38 บาท หรือ -13.29% จากราคาขาย IPO ที่ 2.86 บาท/หุ้น มูลค่าซื้อขาย 2,205.16 ล้านบาท โดยเปิดตลาดที่ 2.90 บาท ขึ้นสูงสุด 2.98 บาท และต่ำสุด 2.48 บาท
บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก เป็นผู้ร่วมจัดจำหน่ายหุ้นบริษัท ดี.ที.ซี. เอ็นเตอร์ไพรส์ (DTCENT) คาดผลประกอบการปี 65-66 เติบโตเฉลี่ย CAGR 46% ต่อปี สู่ 106 ล้านบาท และ 165 ล้านบาท ตามลำดับ โดยมีปัจจัยเติบโตจากธุรกิจ GPS Tracking ฟื้นตัวตามสถานการณ์โควิด-19 ที่คลี่คลายลง และรายได้จากกลุ่มบริษัทย่อยที่จำหน่าย Software และ Application ใหม่ปีนี้ รวมทั้งกลุ่มงาน IoT Solution ของภาครัฐเริ่มเปิดประมูลมากขึ้น พร้อมให้ราคาเหมาะสม 3.30 บาท
ราคา IPO 2.86 บาท (PE Ratio 46.78 เท่า) จํานวนหุ้น IPO 305 ล้านหุ้น คิดเป็นมูลค่าระดมทุนราว 870 ล้านบาท มีวัตถุประสงค์เพื่อใช้สําหรับลงทุนสร้ํางศูนย์บริหารจัดการ และบริการข้อมูลยานพาหนะ และเพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ
DTCENT เป็นผู้ออกแบบ ผลิต จัดจําหน่าย และให้บริการเช่าอุปกรณ์สําหรับ ติดตามยานพาหนะ (GPS Tracking) รวมไปถึงการออกแบบและพัฒนาซอฟต์แวร์ตามความต้องการของลูกค้า และการพัฒนาโครงการไอโอทีโซลูชั่น (IoT Solution) ตลอดจนระบบบริหารจัดการอุปกรณ์ต่างๆ ด้วย เทคโนโลยี AI ให้แก่ลูกค้ําทั้งในภาครัฐบาล และในภาคเอกชน
ช่วงปี 62-64 บริษัทมีรายได้ 806 ล้านบาท 636 ล้านบาท และ 585 ล้านบาท ตามลําดับ หดตัว CAGR เฉลี่ย 15% ต่อปี เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ประกอบกับมาตรการจํากัดการเดินทางในแต่ละจังหวัด ทําให้กลุ่มอุตสาหกรรม การขนส่งซึ่งเป็นลูกค้าหลักชะลอตัวลง ขณะที่ %GPM มีแนวโน้มลดลงสู่ 62.6%, 55.5% และ 49.1% ตามลําดับ จากการแข่งขันที่รุนแรงขึ้น ประกอบกับมาตรการให้ความช่วยเหลือแก่ลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาด ส่งผลให้ช่วงปี 62-64 มีกำไรสุทธิ 166 ล้านบาท 109 ล้านบาท และ 77 ล้านบาท หดตัว CAGR เฉลี่ย 32% ต่อปี ขณะที่ช่วง 9 เดือน ปี 65 บริษัทมีรายได้และกำไรเท่ากับ 476 ล้านบาท +10%YoY และ 52 ล้านบาท -6.4%YoY โดย รายได้พลิกฟื้น YoY จากสถานการณ์โควิด-19 ที่คลี่คลายลง แต่กําไรถูกกดดันจากค่าใช้จ่่ายในการนำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ทั้งนี้ กําไร 9 เดือน ปี 65 คิดเป็น 49% ของประมาณการทั้งปี 65 ที่ 106 ล้านบาท