HoonSmart.com>> “บล.คิงส์ฟอร์ด” มองแนวโน้มหุ้นขึ้นตามต่างประเทศ หลังธนาคารกลางหลักๆ ชะลอขึ้นดอกเบี้ย คาดแนวต้านดัชนี 1,630 – 1,635 จุด แนวรับ 1,620 จุด แนะซื้อเก็งกำไรหุ้นกลุ่มเติบโต แนะ DELTA, HANA, KCE, SVI, BBIK, JMT พร้อมเสิร์ฟหุ้นเด่น AOT, BEM
บริษัทหลักทรัพย์คิงส์ฟอร์ด วาง Filter แนวรับดัชนี SET ที่ 1,620 +/- จุด หากยืนได้คาดมีโอกาสปรับขึ้นไปทดสอบแนวต้าน 1,630 – 1,635 จุด หลังแนวโน้ม ธนาคารกลางหลัก ๆ ชะลอปรับขึ้นดอกเบี้ย แนะนำซื้อเก็งกำไรกลุ่ม Growth เช่น DELTA, HANA, KCE, SVI, BBIK, JMT
หุ้นแนะนำ ได้แก่ AOT (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 80.00 บาท) แนวโน้ม 1Q65/66 (ต.ค.-ธ.ค.65) คาดฟื้นตัวต่อเนื่องจากสถานการณ์ COVID-19 คลี่คลายลงไปมาก รัฐบาลไทยและประเทศต่างๆ ปรับมาตรการในการเดินทางเข้า-ออกประเทศ ส่งผลบวกต่ออุตสาหกรรมการบินและการท่องเที่ยว ส่วนในปี 65/66 (ต.ค.65-ก.ย.66) คาดการณ์ผลประกอบการพลิกเป็นกำไรสุทธิ 1 หมื่นล้านบาท ภายใต้สมมติฐานจำนวนเที่ยวบินรวม 6.6 แสนเที่ยวบิน +69%YoY จำนวนผู้โดยสารรวม 95.7 ล้านคน +105%YoY
ขณะที่มาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการร้านค้าและสายการบินจะสิ้นสุดในเดือน มี.ค.66 ทำให้ King power จะเริ่มจ่ายเงิน Minimum Guarantee ตามสัญญา Duty Free ฉบับใหม่ ช่วยหนุนการเติบโตของรายได้ในช่วง 2H65/66
BEM* (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 11.30 บาท) คาดว่าจะเห็นการฟื้นตัวได้อย่างต่อเนื่องตาม Traffic การเดินทางที่สูงขึ้นหลังสถานการณ์การระบากของ Covid-19 คลี่คลาย โดยช่วงเดือน พ.ย. 65 ที่ผ่านมา ปริมาณจราจรของBEM* และจำนวนผู้โดยสารรถไฟฟ้า MRT ฟื้นตัวมาอยู่ที่ระดับ 1,098.37 พันเที่ยวต่อวัน(+9.76%YoY, +1.88%MoM) และ 354.00 พันเที่ยวต่อวัน (+89.30%YoY, +3.51%MoM) ใกล้เคียงระดับ Precovid-19 ที่ 1,250-1,290 พันเที่ยวต่อวัน และ 350-400 พันเที่ยวต่อวัน
นอกจากนี้ BEM* ยังมีประเด็นบวกจากโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ทั้งนี้ตลาดคาด EPS ปี65 และ ปี66 ของ BEM* จะฟื้นตัวต่อเนื่องจากฐานต่ำในปี 64 ที่ 0.07 บาท/หุ้น มาอยู่ที่ 0.17 บาท/หุ้น, และ 0.25 บาท/หุ้น ตามลำดับ