ดาวโจนส์ปิดบวก 183 จุด คาดเฟดชะลอขึ้นดอกเบี้ยหลังรับสวัดิการว่างงานเพิ่ม

HoonSmart.com>> ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดบวก ดัชนีดาวโจนส์ปรับเพิ่มขึ้น 183 จุด หลังการรายงานข้อมูลการยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกที่สูงกว่าคาด นักลงทุนคาดเฟดจะชะลอขึ้นดอกเบี้ย ด้านราคาน้ำมันดิบลดลง 55 เซนต์ ฟาก “ตลาดหุ้นยุโรป” ปิดร่วง กังวลภาวะเศรษฐกิจโลกและเงินเฟ้อ จับตาการประชุม ECB สัปดาห์หน้า

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) วันที่ 8 ธันวาคม 2565 ปิดที่ 33,781.48 จุด เพิ่มขึ้น 183.56 จุด หรือ 0.55% จากการปรับขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงาน และหลังการรายงานข้อมูลการยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกที่สูงกว่าคาด ทำให้คาดว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด)จะชะลอการขึ้นดอกเบี้ย

ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,963.51 จุด เพิ่มขึ้น 29.59 จุด, +0.75%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,082.00 จุด เพิ่มขึ้น 123.45 จุด, + 1.13%

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีเพิ่มขึ้นมาที่ 3.498%

นอกจากนี้ตลาดยังได้รับผลบวกจากการผ่อนคลายมาตรการคุมโควิดของจีน

กระทรวงแรงงานรายงานจำนวนผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในสัปดาห์ที่แล้ว เพิ่มขึ้น 4,000 ราย สู่ระดับ 230,000 ราย มากกว่า 228,000 รายที่นักวิเคราะห์คาด ส่วนจำนวนผู้ที่ยังคงขอรับสวัสดิการว่างงานต่อเนื่อง เพิ่มขึ้น 62,000 ราย สู่ระดับ 1.67 ล้านราย สูงสุดนับตั้งแต่ เดือนกุมภาพันธ์

Quincy Krosbyจาก LPL Financial กล่าวว่า การขอรับสวัสดิการว่างงานต่อเนื่องเป็นปัจจัยหลักของการเคลื่อนไหวของตลาด การแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ จัดว่าอยู่ในทิศทางที่ถูกต้องสำหรับเศรษฐกิจที่สามารถสะท้อนภาพตลาดแรงงานที่ต้องการเพื่อให้เฟดประสบความสำเร็จในการลดเงินเฟ้อ

นักลงทุนจับตาการประชุมของเฟดในสัปดาห์หน้า ซึ่งเป็นการประชุมนัดสุดท้ายของปีนี้ และคาดว่าจะขึ้นดอกเบี้ย 0.50% แม้ส่วนใหญ่จะรับรู้กันแล้ว แต่ก็ยังมีความไม่แน่นอนว่าดอกเบี้ยจะขึ้นไปที่ระดับเท่าไร และเศรษฐกิจจะต้องอยู่กับดอกเบี้ยสูงนานแค่ไหน รวมไปถึงว่าจะทำให้เศรษฐกิจถดถอยหรือไม่

หุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวขึ้น โดยหุ้นเชฟรอนบวก 2%ประกาศใช้เงินลงทุนเพิ่มในปี 2023 หุ้นเอ็กซอนโมบิลเพิ่มขึ้น 3% จากปรับคาดการณ์ผลการดำเนินงานขึ้นและเพิ่มการซื้อหุ้นคืนเป็น 50 พันล้านดอลลาร์

หุ้นเทสลาลดลง 3% จากรายงานของบลูมเบิร์กว่าบริษัทลดชั่วโมงทำงานในโรงงานที่เซี่ยงไฮ้ลง เพราะความต้องการในตลาดรถยนต์ของจีนชะลอตัว

หุ้นเซมิคอนดักเตอร์และเทคโนโลยีปรับขึ้น โดยหุ้น Nvidia บวก6.5% หุ้นแอมะซอนเพิ่มขึ้น 2.1%

หุ้นโมเดอร์นา เพิ่มขึ้น 3.2% และหุ้นไฟเซอร์ เพิ่มขึ้น 3.2% หลังจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาสหรัฐ (FDA) อนุมัติการฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนให้เด็กวัย 6 เดือน

ตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ปิดลบ นำโดยกลุ่มค้าปลีกที่ลดลง 1.2% นักลงทุนยังกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจโลกและเงินเฟ้อ รวมทั้งจับตาการประชุมของธนาคารสหภาพยุโรป (ECB) ในสัปดาห์หน้า

รอยเตอร์รายงานโดยอ้างเจ้าหน้าที่ ECB ว่า เงินเฟ้อใกล้แตะระดับสูงสุดแล้ว ทำให้ยิ่งคาดการณ์มากขึ้นว่าจะมีการชะลอขึ้นดอกเบี้ย โดย ECB น่าจะปรับดอกเบี้ยขึ้นเพียง 0.50% จากที่เคยปรับถึง 0.75% ในเดือนตุลาคม

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 435.47 จุด ลดลง 0.73 จุด, -0.17%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,472.17 จุด ลดลง 17.02 จุด, -0.23%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,647.31 จุด ลดลง 13.28 จุด, -0.20%,
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 14,264.56 จุด เพิ่มขึ้น 3.37 จุด, +0.02%

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ลดลง 55 เซนต์ หรือ 0.8% ปิดที่ 71.46 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ 1.02 ดอลลาร์ หรือ 1.32% ปิดที่ 76.15ดอลลาร์ต่อบาร์เรล