โดย..ณัฏฐะ มหัทธนา, CFA ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ
ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนและลูกค้าสัมพันธ์ บลจ.กรุงไทย
สหรัฐเผยจ้างงานนอกภาคเกษตร พ.ย. +263,000 สูงกว่าคาด แถมตัวเลข ต.ค. ปรับเพิ่มขึ้น อัตราว่างงานทรงตัว 3.7% ค่าจ้างเฉลี่ยรายชั่วโมง +5.1%YoY +0.6%MoM โตแรงกว่าคาดมากและแก้ข้อมูล ต.ค. สูงขึ้นเช่นกัน อัตราการมีส่วนร่วมในกำลังแรงงาน 62.1% ต่ำสุดใน 4 เดือน ยิ่งตอกย้ำสภาวะตึงตัวจากความไม่สมดุลอย่างหนักระหว่าง ดีมานด์-ซัพพลาย ในตลาดแรงงานสหรัฐ
ค่าจ้างพุ่งดับฝันนักลงทุน ซึ่งกำลังลุ้นให้เงินเฟ้อชะลอลงเร็วๆเพื่อเปิดทางเฟดลดดอกเบี้ยปีหน้า
สัญญาณ “ถดถอย” กระหึ่ม! US treasury yield curve “inverted” อย่างหนักหน่วง 10Y-2Y เดินหน้าทำจุดต่ำสุดใหม่ของวัฏจักร -0.77% นักลงทุนคาดเศรษฐกิจสหรัฐน่าจะแย่และเงินเฟ้อจะชะลอลงในอนาคต ยีลด์พันธบัตรอายุยาวจึงต่ำกว่าอายุสั้นด้วยส่วนต่างกว้างขึ้นเรื่อยๆคล้ายตะโกนว่า “เฟดเข้มงวดเกินไปแล้ว”
Yield curve “คู่รอง” 10Y-3M inverted เกิน 10 วันติดต่อกัน สถิติย้อนหลังกว่า 5 ทศวรรษชี้ปรากฏการณ์ดังกล่าวเกิดทั้งหมด 8 ครั้งแล้วภาวะเศรษฐกิจถดถอยก็ตามมาครบทั้ง 8 ครั้งภายในระยะเวลาเฉลี่ย 10 เดือนหลังจากนั้น (ข้อมูลจาก Bianco Research)
บันได 2 ขั้นสู่ภาวะถดถอย เราเชื่อว่าเศรษฐกิจสหรัฐไม่น่ารอด (ปีหน้าถดถอยค่อนข้างแน่) แต่จากปัจจุบันจนถึง recession ควรผ่านกระบวนการ 2 ขั้นตอนดังนี้
ขั้นแรก: Reflation / Inflation
นักลงทุนเห็น inverted yield curve มองเศรษฐกิจสหรัฐใกล้เข้าสู่ภาวะถดถอย หวังว่าเฟดคงขึ้นดอกเบี้ยต่อไปได้ไม่เท่าไหร่และจะลดดอกเบี้ยในปีหน้า จึงแห่ซื้อพันธบัตรกดยีลด์ลง ดอลลาร์อ่อนค่า ราคาหุ้นฟื้นตามหลัก relative valuations (ยีลด์ลงทำให้บอนด์แพงกว่าหุ้น) ผลที่ตามมาคือ financial conditions ผ่อนคลาย …ขั้นแรกควร bullish สินทรัพย์เสี่ยง เลือก “ผู้ชนะ” มุ่งสร้างกำไรสูงสุด โดยเน้นกองทุนที่ได้ประโยชน์จากการปรับตัวขึ้นของราคา โภคภัณฑ์ (commodities) ซึ่งเป็นตลาด spot สนใจ ดีมานด์-ซัพพลาย ในปัจจุบัน มากกว่ามองอนาคตยาวๆอย่างหุ้นทั่วๆไป นอกจากนี้เราชอบอีก 2 ตลาดซึ่งระดับราคาต่ำกว่าศักยภาพมากเพราะเพิ่งผ่านพ้นวิกฤต ได้แก่ จีน และ เวียดนาม
ขั้นที่สอง: Market Crash / Recession
Financial conditions ผ่อนคลายหนุนราคาสินทรัพย์ปรับตัวขึ้นไปเรื่อยๆ พร้อมผลข้างเคียง “เงินเฟ้อเร่งขึ้นอีก” (ใช้เวลานานแค่ไหนขึ้นอยู่กับความเร็ว/แรงของขั้นแรก) จนกระทั่งเฟดทนไม่ไหวต้องปรับท่าทีเข้มงวดขึ้นอีกครั้ง financial conditions จะตึงตัวอย่างรวดเร็ว ณ จุดที่ราคาหุ้นและสินทรัพย์ต่างๆสูงขึ้นมาก ตลาดการเงินอาจ crash ราคาสินทรัพย์กลับร่วงลงรุนแรงเพิ่มความเสี่ยงเงินฝืด (deflation) *เล็งให้ดี* ก่อนถึง “ยอดดอย” นักลงทุนส่วนใหญ่คงคึกมากและเชื่อว่า “เศรษฐกิจจะไม่ถดถอย” เดาคร่าวๆอาจเป็นตอนที่จีนเตรียมเปิดประเทศเต็มสูบ …ก่อนถึงจุดนั้นควร take profits ขายสินทรัพย์เสี่ยงแล้วเข้าซื้อกองทุนที่เน้น พันธบัตร/ตราสารหนี้อันดับความน่าเชื่อถือสูงๆอายุยาวๆ
2Cs+V มีโอกาสเป็น “ผู้ชนะ” ในขั้นแรก
C for China ได้แก่ KT-Ashares, KT-CHINA, KT-CHINABOND
C for Commodities ได้แก่ KT-ENERGY, KT-MINING
V for Vietnam ได้แก่ KT-VIETNAM
*** อัพเดตความเห็นล่าสุดของเราได้ทุกเช้าที่รายการ Fund Today by KTAM ***
ไอเดียกองทุนรวมมีให้ทุกวัน ผู้สนใจเชิญรับชม Fund Today by KTAM ทุกเช้าวันทำการเริ่มเวลา 8:45 น. สามารถพิมพ์คำถามทางไลฟ์ Facebook: KTAM Smart Trade, Youtube: KTAM TV ONLINE หรือรับฟังและร่วมพูดคุยใน Clubhouse: KTAM Smart Trade สดพร้อมกันสามช่องทาง นอกจากนี้ดูคลิปย้อนหลังได้ทั้ง Youtube และ Facebook
#คุยทุกวันฟันทุกเช้า #ฟันทูเดย์845
คำเตือน: ความเห็นส่วนบุคคล ไม่ใช่คำแนะนำการลงทุน ผลการดำเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน คู่มือการลงทุน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน