ดาวโจนส์ปิดบวก 34 จุด จ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้นดีกว่าคาด

HoonSmart.com>> ดัชนีดาวโจนส์ปิดบวก 34 จุด สวนทาง S&P500-Nasdaq ลบเล็กน้อย ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนพ.ย.ร้อนแรงกว่าคาด นักลงทุนกลับมาประเมินช่วงเวลาเฟดจะชะลอขึ้นดอกเบี้ย ด้านราคาน้ำมันดิบ WTI ลดลง 1.24 ดอลลาร์ ปิดต่ำกว่า 80 ดอลลาร์อีกครั้ง ฟาก “ตลาดหุ้นยุโรป” ส่วนใหญ่ปิดลบ

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) วันที่ 2 ธันวาคม 2565 ปิดที่ 34,429.88 จุด เพิ่มขึ้น 34.87 จุด หรือ 0.10% หลังการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนพฤศจิกายนร้อนแรงกว่าคาดทำให้นักลงทุนกลับมาประเมินอีกครั้งว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด)จะชะลอการขึ้นดอกเบี้ยเมื่อไร

ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,071.70 จุด ลดลง 4.87 จุด, -0.12%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,461.50 จุด ลดลง 20.95 จุด,-0.18%

ในรอบสัปดาห์นี้ ดัชนีดาวโจนส์ปิดบวก 0.2%, ดัชนี S&P500 เพิ่มขึ้น 1.1% และดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 2.1%

ขณะเดียวกัน ตัวเลขค่าจ้างรายชั่วโมงโดยเฉลี่ยของแรงงาน ดีดตัวขึ้น 0.6% เมื่อเทียบรายเดือน สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 0.3% และเพิ่มขึ้น 5.1% เมื่อเทียบรายปี สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 4.6% โดยตัวเลขค่าจ้างรายชั่วโมงนับเป็นข้อมูลที่เฟดให้ความสำคัญเพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ภาวะเงินเฟ้อ

ตลาดอ่อนตัวลงหลังกระทรวงแรงงานรายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนพฤศจิกายนเพิ่มขึ้น 263,000 ตำแหน่ง สูงกว่า 200,000 ตำแหน่ง ที่นักวิเคราะห์คาด ส่วนค่าจ้างรายชั่วโมงโดยเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 0.6% เมื่อเทียบรายเดือนสูงกว่า 0.3% ที่คาด และเมื่อเทียบรายปี เพิ่มขึ้น 5.1% สูงกว่า 4.6% ที่คาดไว้ ขณะที่อัตราการว่างงานทรงตัวที่ 3.7% สอดคล้องการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

ข้อมูลการจ้างงานเป็นข้อมูลเศรษฐกิจตัวสุดท้าย ก่อนที่เฟดจะประชุมนโยบายการเงินครั้งสุดท้ายของปีนี้ในวันที่ 13-14 ธันวาคม ซึ่งตลาดคาดการณ์ว่าเฟดจะขึ้นดอกเบี้ยเพียง 0.50%

Ron Temple จาก Lazard Asset Management กล่าวว่า การจ้างงานและค่าจ้างรายชั่วโมงที่เพิ่มขึ้นตอกย้ำว่า ภารกิจของเฟดยังไม่จบ นักลงทุนต้องประเมินใหม่เกี่ยวกับการยุติการขึ้นดอกเบี้ยทั้งระดับอัตราดอกเบี้ยตลาดแรงและระยะเวลาที่เฟดจะคงดอกเบี้ยไว้ที่ระดับนั้น

ข้อมูลการจ้างงานและค่าจ้างรายชั่วโมง เป็นสัญญานว่าเฟดยังคงขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่องแม้ชะลอการปรับขึ้น

หุ้นฟอร์ด มอเตอร์ ลดลง 1.56% หลังเปิดเผยยอดขายรถยนต์ลดลงในเดือนพ.ย.

ตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ปิดลบ นำโดยกลุ่มน้ำมันและก๊าซที่ลดลง 1.1% หลัง EU บรรลุข้อตกลงในการกำหนดราคาน้ำมันรัสเซียที่ระดับ 60 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่นักลงทุนเกาะติดรายงานข่าวจีนในเรื่องนโยบายควบคุมโรคโควิด-19 ของจีน และรอการรายงานข้อมูลการจ้างงานอกภาคเกษตรสหรัฐฯ อย่างไรก็ตามตลาดปรับตัวขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 7 ติดต่อกันแล้ว

หุ้นเครดิต สวิสบวก 6% จากรายงานข่าวบลูมเบิร์กว่าประธานธนาคารจะเร่งเดินหน้าโครงการตัดค่าใช้จ่าย

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 443.29 จุด ลดลง 0.67 จุด, -0.15%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,556.23 จุด ลดลง 2.26 จุด, -0.03%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,742.25 จุด ลดลง 11.72 จุด, -0.17%,
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 14,529.39 จุด เพิ่มขึ้น 39.09 จุด, +0.27%

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนมกราคม ลดลง 1.24 ดอลลาร์ หรือ 1.5% ปิดที่ 79.98 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ ลดลง 1.31 ดอลลาร์ หรือ 1.5% ปิดที่ 85.57 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล