หุ้นเช้านี้บวก 0.91 จุด ลุ้นจีนผ่อนคลายมาตรการคุมโควิด-บาทแข็งค่า

HoonSmart.com>>ตลาดหุ้นเช้านี้บวก 0.91 จุด จีนเป็นตัวแปรหลักในการช่วยหนุนตลาด โดยเชื่อจีนจะผ่อนคลายมาตรการคุมโควิด และเงินบาทแข็งค่าในรอบหลายเดือน

ดัชนีตลาดหลักทรัพย์วันที่ 2 ธ.ค.2565 ณ เวลา 9.58 น. อยู่ที่ระดับ 1,649.35 จุด เพิ่มขึ้น 0.91 จุด หรือ +0.06% มูลค่าซื้อขาย 1,592.27 ล้านบาท

บล.ดาโอ (ประเทศไทย) มองดัชนีฯยังปรับตัวขึ้นต่อ จีนยังเป็นตัวแปรหลักที่ช่วยหนุนตลาด และเงินบาทแข็งค่าในรอบหลายเดือน โดยจีน ยังเป็นประเด็นหลักที่ตลาดให้ความสนใจ นักลงทุนยังเชื่อว่าจีนจะต้องมีการผ่อนคลายมาตรการคุมโควิด-19 ส่งผลให้ราคาหุ้นที่เกี่ยวข้องมีการปรับตัวขึ้นมาบ้างแล้ว

สถานการณ์ยูเครน-รัสเซีย มีความเคลื่อนไหว คือ ไบเดน ผู้นำสหรัฐฯ จับมือกับ มาครง ผู้นำฝรั่งเศส เพื่อที่จะสนับสนุนยูเครนในด้านต่าง ๆ และจะมีการพูดคุยกับปูติน ผู้นำรัสเซีย เพื่อหาทางออกของความขัดแย้งครั้งนี้ จึงมองว่าหากสถานการณ์ดีขึ้น จะลบต่อ
หุ้นกลุ่มพลังงาน และบวกต่อหุ้นกลุ่มชิ้นส่วนรถยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ และ MINT แต่หากสถานการณ์แย่ลงก็จะพลิกกลับด้านกัน

การขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ค่อย ๆ ชะลอตัว และส่งผ่านตลาดมาทาง Dollar ที่อ่อนตัวลง (ล่าสุด Dollar Index 104.7 จุด) กอปรกับเงินบาทของไทยแข็งค่าขึ้นแตะ 34.8 บาท/ดอลลาร์ ในรอบหลายเดือน และ Flow ยังไหลเข้าตลาดหุ้นไทยต่อ วานนี้(1 ธ.ค.) ซื้อสุทธิ 1.3 พันล้านบาท

หนี้เสียภายใต้ข้อมูลเครดิตบูโรปี 65 พุ่งถึง 1.1 ล้านล้านบาท มองว่าหากหนี้เสียเพิ่มสูงขึ้น กลุ่มธนาคารอาจจะต้องมีมาตรการในการช่วยเหลือลูกหนี้ที่มีความสมารถในการชำระหนี้ได้ต่ำลง

ตัวเลขเศรษฐกิจวันนี้ คือ ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐฯ (คาดจะปรับตัวน้อยลงกว่าเดือนก่อน)

ด้านกลยุทธ์มองตลาดยังได้อานิสงค์จากการที่นักลงทุนในตลาดโลกเก็งเรื่องจีนผ่อนคลายมาตรการ และเฟดอาจขึ้นดอกเบี้ยได้น้อยลง หุ้นที่จะเป็นกลุ่มนำคือหุ้นที่ราคาลงมาลึกจากความกังวลเรื่องของจีนก่อนหน้านี้ วันนี้ ให้น้ำหนักกับกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ (KCE, HANA) และเดินเรือ (PSL, RCL)

5 อันดับหุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่

DELTA อยู่ที่ 778.00 บาท เพิ่มขึ้น 14.00 บาท หรือ +1.83% มูลค่าซื้อขาย 145.31 ล้านบาท
CPALL อยู่ที่ 64.50 บาท ลดลง 1.25 บาท หรือ -1.90% มูลค่าซื้อขาย 123.29 ล้านบาท
AOT อยู่ที่ 74.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท หรือ +0.34% มูลค่าซื้อขาย 108.07 ล้านบาท
SVI อยู่ที่ 12.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.90 บาท หรือ +8.11% มูลค่าซื้อขาย 62.32 ล้านบาท
BBL อยู่ที่ 145.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง มูลค่าซื้อขาย 51.73 ล้านบาท