หุ้นปิดเช้าพุ่ง 15.15 จุด แรงดันจาก DELTA หลังเฟดจะชะลอขึ้นดบ.

HoonSmart.com>> ดัชนีหุ้นปิดภาคเช้าที่ 1,650.51 จุด เพิ่มขึ้น 15.15 จุด ตามตลาดต่างประเทศหลังประธานเฟดส่งสัญญาณชะลอการขึ้นดอกเบี้ย ส่งเงินดอลลาร์สหรัฐ-บอนด์ยีลด์อ่อนตัวลง ดันสินทรัพย์เสี่ยงขึ้นหมด อีกทั้งบาทแข็งค่าขึ้น แรงซื้อต่างชาติเข้าต่อเนื่องช่วยหนุน โดย DELTA เป็นกำลังสำคัญสุดในการดันดัชนีฯ แนวโน้มภาคบ่ายคาดเคลื่อนไหวในแดนบวกได้ แนวรับ 1,635 แนวต้าน 1,650-1,660 จุด

ตลาดหุ้นวันที่ 1 ธ.ค.2565 ดัชนีปิดภาคเช้าที่ระดับ 1,650.51 จุด เพิ่มขึ้น 15.15 จุด หรือ +0.93% มูลค่าการซื้อขาย 42,209.91 ล้านบาท โดยดัชนีขึ้นไปแตะ 1,651.43 จุด และต่ำสุด 1,639.02 จุด

นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ นักกลยุทธ์การลงทุน บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นเช้านี้ปรับตัวขึ้นในทิศทางเดียวกับตลาดต่างประเทศ ได้แรงหนุนจากประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณการชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเฟดเดือนธ.ค.นี้ หลังเงินเฟ้อค่อย ๆ ถอยลง ส่งผลให้สินทรัพย์เสี่ยงต่างปรับตัวขึ้นกันหมด และเงินดอลลาร์สหรัฐ และอัตราผลตอบแทนพันธบัตร (บอนด์ยีลด์) อ่อนตัวลง ขณะที่เงินบาทแข็งค่าขึ้น แรงซื้อต่างชาติเข้ามาอย่างต่อเนื่อง สวนทางกองทุนที่ขายออกอย่างต่อเนื่อง แต่ก็น่าจะเห็นกองทุนกลับมาซื้อได้แล้ว

ทั้งนี้ ตลาดได้รับแรงหนุนจากหุ้นในกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ที่ขึ้นนำตลาด โดยเฉพาะหุ้น DELTA เป็นกำลังสำคัญสุดในการดันดัชนีฯ โดย DELTA ตัวเดียวดันดัชนีได้ราว 10 จุด และยังมีหุ้น HANA และ KCE มาช่วยดันดัชนีฯขึ้นด้วย

พร้อมให้ติดตามการประชุมกลุ่มโอเปกพลัสในวันที่ 4 ธ.ค.นี้ ซึ่งมีโอกาสที่จะลดกำลังการผลิตน้ำมันหลังเศรษฐกิจจีนแผ่วลง และคืนนี้ติดตามตัวเลข PCE เดือนต.ค.ของสหรัฐ ซึ่งตลาดคาด 6% และลดลงจากเดือนก.ย.ที่ 6.2% รวมถึงติดตามตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐที่จะออกมาในวันพรุ่งนี้ (2 ธ.ค.)

สำหรับแนวโน้มภาคบ่ายตลาดคงจะยังเคลื่อนไหวในแดนบวกได้ โดยมีแนวรับ 1,635 จุด แนวต้าน 1,650-1,660 จุด

5 อันดับหุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่
DELTA ปิดที่ 766.00 บาท เพิ่มขึ้น 94.00 บาท หรือ +13.99% มูลค่าซื้อขาย 5,206.19 ล้านบาท
BDMS ปิดที่ 29.25 บาท ลดลง 1.00 บาท หรือ -3.31% มูลค่าซื้อขาย 1,893.31 ล้านบาท
SIRI ปิดที่ 1.70 บาท เพิ่มขึ้น 0.13 บาท หรือ +8.28% มูลค่าซื้อขาย 1,688.92 ล้านบาท
BANPU ปิดที่ 13.30 บาท เพิ่มขึ้น 0.20 บาท หรือ +1.53% มูลค่าซื้อขาย 1,643.91 ล้านบาท
CPALL ปิดที่ 65.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท หรือ +0.77% มูลค่าซื้อขาย 1,246.62 ล้านบาท