HoonSmart.com>>หุ้นในกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ขยับขึ้นยกแผง ดันดัชนีกลุ่มพุ่งแรง 11.10% นำโดยหุ้น SVI-DELTA-TEAM-KCE-HANA ตามตลาดต่างประเทศ หลังดัชนี Nasdaq พุ่งจากแรงหนุนกลุ่มเทคโนโลยีหลังประธานเฟดส่งสัญญาณชะลอปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
เมื่อเวลา 11.17 น.ดัชนีกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์พุ่งแรง 11.10% มาอยู่ที่ 9,688.16 จุด เพิ่มขึ้น 967.60 จุด หุ้นในกลุ่มฯต่างขยับขึ้นยกแผง นำโดยหุ้น SVI พุ่ง 12.82% มาที่ 11.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาท มูลค่าซื้อขาย 266.13 ล้านบาท
หุ้น DELTA พุ่ง 12.20% มาที่ 754.00 บาท เพิ่มขึ้น 82.00 บาท มูลค่าซื้อขาย 3,388.44 ล้านบาท
หุ้น TEAM พุ่ง 9.38% มาที่ 8.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท มูลค่าซื้อขาย 228.05 ล้านบาท
หุ้น KCE พุ่ง 7.25% มาที่ 51.75 บาท เพิ่มขึ้น 3.50 บาท มูลค่าซื้อขาย 891.36 ล้านบาท
หุ้น HANA บวก 4.35% มาที่ 54.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.25 บาท มูลค่าซื้อขาย 935.15 ล้าบาท
นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า ราคาหุ้นในกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์เช้านี้ปรับตัวขึ้นนำตลาดฯ นำโดยหุ้น DELTA ทำให้ตลาดฯบวกได้ดีด้วย ซึ่งคาดว่าจะเป็นการรับอานิสงส์จากตลาดสหรัฐที่ปรับตัวขึ้น โดยเฉพาะดัชนี Nasdaq ที่ปรับตัวขึ้นได้ดี จากแรงหนุนหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยี หลังจากที่มีสัญญาณจากประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่จะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ทำให้หุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีพลิกกลับขึ้นมาได้ดี
นายธันย์ จิระสิทธิกร นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กสิกรไทย กล่าวว่า หุ้นในกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ปรับตัวขึ้นนำตลาดเช้านี้ เป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดต่างประเทศ โดยดัชนี Nasdaq ได้ปรับตัวขึ้นดีเมื่อคืนที่ผ่านมา ได้แรงหนุนจากหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีหลังจากที่เฟดส่งสัญญาณการชะลอปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งก็เป็นผลดีต่อหุ้น
ทั้งนี้ แนะนำ”ถือ”หุ้น DELTA ราคาเป้าหมาย 590 บาท ผลงานไตรมาส 4/65 คาดว่าจะทำนิวไฮ และดีกว่าไตรมาส 3/65 จากยอดขายที่ดี แต่ไม่ดีมากเนื่องจากเงินบาทแข็งค่า โดยไตรมาส 4/65 คาดว่าผลงานจะดีกว่าไตรมาส 3/65 ไม่เกิน 10%
หุ้น HANA แนะนำ”ซื้อ”ราคาเป้าหมาย 56 บาท แม้ผลงานไตรมาส 4/65 คาดว่าจะอ่อนลง แต่ Valuation ยังไม่แพงเมื่อเทียบกับหุ้นตัวอื่น อีกทั้ง HANA เริ่มมีธุรกิจ EV มากขึ้น ซึ่งมอง EV เป็นบวกอยู่แล้ว
ส่วนหุ้น KCE แนะนำ”ถือ”ราคาเป้าหมาย 46 บาท ผลงานไตรมาส 4/65 ไม่ดีเท่าไร จากยอดขายที่ไม่น่าจะดี ซึ่งเมื่อเร็ว ๆ นี้ ตัวเลขส่งออกที่ออกมาแสดงให้เห็นว่าการส่งออกแผงวงจรลดลงค่อนข้างมาก ทำให้มองไปถึงครึ่งแรกปี 2566 ที่ยอดขายยังไม่น่าจะดีเมื่อเทียบกับตัวอื่น จึงแนะนำ”ขายทำกำไร”ออกไปบ้างเมื่อราคาหุ้นปรับตัวขึ้น