ดาวโจนส์ปิดบวก 95 จุด เฟดส่งสัญญาณชะลอขึ้นดอกเบี้ย

HoonSmart.com>>ดาวโจนส์ปิดบวก 95 จุด  รายงานการประชุมเฟดส่งสัญญาณชะลอขึ้นดอกเบี้ยในเดือนธ.ค.นี้  กดดันอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลลดลง ส่วนตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ปรับตัวขึ้น ด้านราคาน้ำมันดิบ  WTI ร่วงลง 3.01 ดอลลาร์ หรือ 3.7% ปิดที่ 77.94 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) วันที่ 23 พฤศจิกายน 2565 ปิดที่ 34,194.06 จุด เพิ่มขึ้น 95.96 จุด หรือ 0.28% หลังรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด)ส่งสัญญาณว่าความเป็นไปได้ที่จะชะลอการขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมเดือนหน้า

ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,027.26 จุด เพิ่มขึ้น 23.68 จุด, +0.59%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,285.32 จุด เพิ่มขึ้น 110.91 จุด, +0.99%

รายงานการประชุมเดือนพฤศจิกายนของเฟดส่งสัญญาณว่า เฟดกำลังเห็นความคืบหน้าในการต่อสู้กับอัตราเงินเฟ้อที่สูง และกำลังหาทางชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งหมายถึงการปรับขึ้นในอัตราที่น้อยลงจนถึงสิ้นปีนี้และในปี 2566

“ผู้เข้าประชุมส่วนใหญ่เห็นว่า การชะลออัตราการเพิ่มขึ้นในเร็วๆ นี้มีความเหมาะสม”

รายงานระบุ “ความไม่แน่นอนและขนาดของผลของการดำเนินนโยบายการเงินต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจและอัตราเงินเฟ้อ ที่ต้องใช้เวลา เป็นหนึ่งในเหตุผลที่ว่าทำไมการประเมินดังกล่าวจึงมีความสำคัญ”

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีอ่อนตัวลงมาที่ระดับ 3.717% ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอายุ 2 ปี ลดลงมาที่ 4.479%

อาร์ต โฮแกน หัวหน้านักกลยุทธ์การตลาดของ B. Riley Financial กล่าวว่า สิ่งที่แสดงให้เห็นจริง ๆ ก็คือตลาดที่กระวนกระวายใจเกี่ยวกับสิ่งหนึ่งสิ่งเดียวเท่านั้น และนั่นคือธนาคารกลางสหรัฐและความเห็นของเฟดต่อนโยบายการเงิน ดังนั้นข่าวอะไรก็ตามที่เปลี่ยนภาพเกี่ยวกับการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในอนาคตนั้นมีความสำคัญต่อตลาด ซึ่งวันนี้มีปริมาณการซื้อขายที่เบาบาง เนื่องจากสัปดาห์นี้มีวันทำการน้อย

อย่างไรก็ตามเป็นอีกวันหนึ่งที่มีข้อมูลเศรษฐกิจจำนวนมากเผยแพร่เข้าสู่ตลาด ทั้งตลาดแรงงาน ตลาดที่อยู่อาศัย และภาคการผลิต โดยการยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในสัปดาห์ที่แล้ว เพิ่มขึ้น 17,000 ราย สู่ระดับ 240,000 ราย สูงกว่า 225,000 ราย ที่นักวิเคราะห์คาด

เอสแอนด์พี โกลบอลรายงาน ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและภาคบริการเบื้องต้นเดือนพฤศจิกายน ลดลงสู่ระดับ 46.3 ต่ำสุดในรอบ 3 เดือน จาก 48.2 ในเดือนตุลาคม และหดตัวลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3

กระทรวงพาณิชย์รายงาน ยอดขายบ้านใหม่เดือนตุลาคมเพิ่มขึ้น 7.5% สู่ระดับ 632,000 ยูนิต ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าลดลงมาที่ 570,000 ยูนิต

ผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคเดือนพฤศจิกายนของมหาวิทยาลัยมิชิแกนลดลงมาที่ 56.8 ต่ำสุดในรอบ 4 เดือน จาก 59.9 ในเดือนตุลาคม

หุ้นนอร์ดสตรอม ห้างสรรพสินค้ารายใหญ่ลดลง 4.24% หลังจากปรับลดคาดการณ์ผลกำไร แม้ผลการดำเนินงานล่าสุดดีกว่าคาด

ตลาดหุ้นนิวยอร์กจะปิดทำการในวันพฤหัสบดีที่ 24 พฤศจิกายน เนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า และจะเปิดซื้อขายเพียงครึ่งวันในวันศุกร์ที่ 25 พฤศจิกายน

ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวเพิ่มขึ้น นำโดยกลุ่มเดินทางและสันทนาการที่เพิ่มขึ้น 1.9% กลุ่มค้าปลีกและเหมืองแร่งต่างเพิ่มขึ้น 1.8% หลังจากการเผยแพร่ข้อมูลเศรษฐกิจยูโรโซน ขณะที่นักลงทุนรอการเผยแพร่รายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ

เอสแอนด์พี โกลบอลรายงาน ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและภาคบริการเบื้องต้นเดือนพฤศจิกายนยูโรโซนเพิ่มขึ้นมาที่ 47.8 จาก 47.3 ในเดือนตุลาคม แต่ก็ย้ำว่าภูมิภาคนี้ได้เข้าสู่ภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจ

หุ้นเครดิตสวิสลดลง 6% แม้ที่ประชุมผู้ถือหุ้นอนุมัติการเพิ่มทุน 4 พันล้านสวิสฟรังก์ เพื่อปรับโครงสร้างธุรกิจ

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 438.82 จุด เพิ่มขึ้น 2.60 จุด, +0.60%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,465.24 จุด เพิ่มขึ้น 12.40 จุด, +0.17%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,679.09 จุด เพิ่มขึ้น 21.56 จุด, +0.32%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 14,427.59 จุด เพิ่มขึ้น 5.24 จุด, +0.036%

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนมกราคมลดลง 3.01 ดอลลาร์ หรือ 3.7% ปิดที่ 77.94 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนมกราคม ลดลง 2.95 ดอลลาร์ หรือ 3.3% ปิดที่ 85.41 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล