ผลงาน 9 เดือน KJL กำไรนิวไฮ 98 ล. มั่นใจเสียงตอบรับดีเทรด mai 22 พ.ย.  

Hoonsmart.com>>”กิจเจริญ เอ็นจิเนียริ่ง อีเลคทริค” หรือ KJL ประกาศผลงาน 9 เดือนแรกทำกำไรนิวไฮ 98 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 45% จากงวดเดียวกันของปีก่อน พร้อมเข้าเทรดวันแรกในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) 22 พ.ย. เชื่อมั่นหุ้น KJL จะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากนักลงทุน เดินหน้าขยายธุรกิจ New S Curve งานขึ้นรูปแปรรูปโลหะ ผลักดันผลประกอบการเติบโตต่อเนื่อง

นายเกษมสันต์ สุจิวโรดม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กิจเจริญ เอ็นจิเนียริ่ง อีเลคทริค หรือ KJL เปิดเผยว่า ผลประกอบการของบริษัทในงวด 9 เดือนแรกของปีนี้ สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2565  บริษัทมีรายได้รวม 759 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 138 ล้านบาท  หรือ 22.27 % จากงวดเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 98 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 31 ล้านบาท หรือ 45 % จากงวดเดียวกันของปีก่อน ซึ่งถือเป็นนิวไฮตั้งแต่บริษัทก่อตั้งมา โดยผลกำไรงวด 9 เดือนปีนี้สูงกว่ากำไรสุทธิของปีที่แล้วทั้งปีที่มีกำไร 94 ล้านบาท

สำหรับแผนการดำเนินงานในอนาคต บริษัทจะเร่งขยายธุรกิจ New S Curve งานขึ้นรูปแปรรูปโลหะ เช่น งานออกแบบโลหะเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ งานตกแต่งภายใน ตู้อัตโนมัติ ตู้คีออส บริษัทจะเน้นงานที่มีมูลค่าเพิ่มสูง มีอัตรากำไรที่ดี งานที่เป็นงานยากมีผู้ผลิตได้ไม่กี่ราย ซึ่งงานในกลุ่มนี้เป็นสัดส่วน 5-10%ของรายได้รวม โดยมีงานผลิตตู้ไฟสวิตช์บอร์ด และรางเดินสายไฟฟ้ายี่ห้อ KJL เป็นสัดส่วน 60-70%ของรายได้รวม งานตู้ไฟสั่งผลิต 20% งานตู้ Wiring ประมาณ 1-2%

สำหรับหุ้น KJL ที่จะทำการซื้อขายวันแรกในวันที่ 22 พ.ย.นี้ นายเกษมสันต์กล่าวว่า มีความมั่นใจในผลประกอบการที่ออกมาเป็นที่น่าพอใจ มีแนวโน้มที่ดีในอนาคต และอยากให้บริษัทมีการเติบโตอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่อง

“การเข้าเทรดในตลาด mai ในวันที่ 22 พ.ย.นี้ บริษัทเชื่อมั่นว่าหุ้น KJL จะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากนักลงทุน เนื่องจากมีปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง และมีประสบการณ์ในธุรกิจมายาวนานเกือบ 30 ปี โดยมั่นใจ KJL ยังสร้างโอกาสในการเติบโตในระยะยาว และสร้างผลตอบแทนที่ดีแก่นักลงทุนอย่างต่อเนื่อง” นายเกษมสันต์ กล่าว

บริษัท KJL เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายตู้ไฟสวิตช์บอร์ด รางเดินสายไฟ อุปกรณ์ที่ใช้เดินสายไฟ ภายใต้เครื่องหมายการค้า KJLรวมถึงสินค้าสั่งผลิต (Made to Order) งานระบบไฟฟ้าและงานโลหะแผ่นแปรรูปสั่งผลิตพิเศษในรูปแบบที่หลากหลายตามความต้องการของลูกค้าในอุตสาหกรรมต่างๆ แบบครบวงจร โดยใช้เครื่องจักรและเทคโนโลยีทันสมัย แบรนด์ AMADA จากประเทศญี่ปุ่น ทำให้ผลิตภัณฑ์ KJL เป็นที่รู้จักและได้รับการยอมรับจากลูกค้าในประเทศ ด้วยคุณภาพมาตรฐานระดับโลก การผลิตที่รวดเร็ว ส่งมอบตรงเวลา และมีสต็อกสินค้าพร้อมส่งให้กับลูกค้า หรือบริการ “KJL Now สั่งด่วนได้เร็ว” รวมถึงการเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับชไนเดอร์ อิเล็คทริค ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งเป็นผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับระบบไฟฟ้าชั้นนำระดับโลก ที่ให้ลิขสิทธิ์แก่ KJL ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ตู้สวิตช์บอร์ดไฟฟ้า รุ่น Prisma iPM

บริษัทมั่นใจว่าการระดมทุนครั้งนี้จะเสริมความแข็งแกร่งด้านฐานะการเงิน เพื่อรองรับการขยายธุรกิจในหลากหลายมิติและสร้างการเติบโตที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น โดยเงินที่ได้จากการระดมทุนจำนวน 385 ล้านบาท (หลังหักค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้อง) นำไปใช้ก่อสร้างโรงงานและเครื่องจักร ลงทุนระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Rooftop) ลงทุนศูนย์นวัตกรรม KJL Innovation Campus เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ และชำระคืนเงินกู้ยืมระยะสั้น

นายเกษมสันต์ กล่าวว่า KJL มีเป้าหมายมุ่งสู่การเป็นผู้นำผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับการใช้ไฟฟ้าทุกระดับ นับตั้งแต่ครัวเรือนจนถึงอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ให้สอดรับกับการใช้ไฟฟ้า อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (EV) และพลังงานทดแทนในประเทศที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้สินค้าของบริษัทฯ เป็นที่ต้องการมากขึ้นและเติบโตต่อเนื่องในอุตสาหกรรมต่างๆ  ทั้งนี้ KJL พร้อมขับเคลื่อนศูนย์นวัตกรรม KJL Innovation Campus ให้เป็นศูนย์วิจัย คิดค้น และพัฒนาผลิตภัณฑ์ร่วมกับพาร์ทเนอร์ต่างๆ พร้อมต่อยอดเทคโนโลยีหรือนวัตกรรมใหม่ๆ ให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ลูกค้าและเข้าถึงตลาดกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้น ผลักดันให้แบรนด์ KJL เป็นที่รู้จักและสร้าง Brand Awareness ระดับสากล ในฐานะ “ผู้นำนวัตกรรม ตู้ไฟรางไฟ ขับเคลื่อนไฟฟ้า เพื่ออนาคตคุณ” ที่มีการเติบโตอย่างยั่งยืน รองรับเมกะเทรนด์ในอนาคต

นายพายุพัด มหาผล กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ KJL กล่าวว่า KJL เป็นหุ้นที่มีโอกาสเติบโตสูงจากความต้องการใช้ไฟฟ้าที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นในทุกอุตสาหกรรมภายในประเทศ ทำให้ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับการใช้ไฟฟ้า แบรนด์ KJL เป็นที่ต้องการของตลาดมากขึ้น อีกทั้งผลประกอบการที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง

สำหรับผลประกอบการปี 2562-2564 บริษัทมีรายได้รวม 754 ล้านบาท 708 ล้านบาท และ 846 ล้านบาท ตามลำดับ เติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR)  5.93% ต่อปี และกำไรสุทธิอยู่ที่ 19 ล้านบาท 91 ล้านบาท และ 94 ล้านบาท ตามลำดับ

ส่วนการดำเนินธุรกิจของบริษัทในปี 2565 ยังเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ในไตรมาส 4 ซึ่งเป็นช่วงโค้งสุดท้ายของปี เชื่อมั่นว่าจะมีการเติบโตที่ดี อันสะท้อนภาพการเป็น Growth Stock  ได้เป็นอย่างดี และคาดว่าวันแรกในการเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) จะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน

 

#KJL