บลจ.ทิสโก้รุกออก RMF หุ้นเวียดนาม ช้อนหุ้นราคาถูก กำไรโตเด่น

HoonSmart.com>> “บลจ.ทิสโก้” เพิ่มโอกาสลงทุนระยะยาวใน “ตลาดหุ้นเวียดนาม” เปิดขายกองทุน TVIETNAMRMF-A ชี้จังหวะเหมาะลงทุนเพราะอัตราปิดต่อราคาต่อหุ้น (P/E) ถูกสุดรอบ 10 ปี อัตราการเติบโตกำไรต่อหุ้น ปี 66 โตเด่น 17.8% ชูจุดเด่นกองทุนลงทุนครั้งเดียวได้กระจายการลงทุนในหุ้นขนาดใหญ่ กลาง เล็ก ลดความเสี่ยงของพอร์ต เปิด IPO 21-30 พ.ย.65

นายสาห์รัช ชัฏสุวรรณ ผู้อำนวยการสายการตลาด และที่ปรึกษาการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ทิสโก้ จำกัด เปิดเผยว่า ตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบันตลาดหุ้นเวียดนาม (VNINDEX) ปรับตัวลดลงมาแล้วกว่า 40% ลงมาเทรดที่ระดับอัตราปิดต่อราคาต่อหุ้น (P/E) ที่ 8.03 เท่า ต่ำที่สุดในรอบเกือบ 10 ปี จากความกังวลเรื่องอัตราเงินเฟ้อ และอัตราดอกเบี้ยเงินฝากในประเทศปรับตัวเพิ่มขึ้นทำให้คนโยกเงินลงทุนไปลงทุนในเงินฝากแทน สวนทางกับอัตราการเติบโตของกำไรต่อหุ้น (EPS Growth) ที่เติบโตในระดับสูง โดยข้อมูลจาก Bloomberg คาดว่า ในปี 2565 – 2566 อัตรา EPS Growth ของตลาดหุ้นเวียดนามจะอยู่ที่ระดับ 17.8% ซึ่งเป็นระดับที่สูงที่สุดในอาเซียน

นอกจากนี้ ในระยะกลางเวียดนามยังมีปัจจัยบวกรออยู่จำนวนมาก เช่น เศรษฐกิจฟื้นตัวรับการเปิดประเทศ หนี้ต่างประเทศต่ำและดุลบัญชีเดินสะพัดเป็นบวกนับตั้งแต่ปี 2554

ดังนั้น การที่ดัชนีหุ้นเวียดนามปรับตัวลงมา บลจ.ทิสโก้มองว่าเป็นจังหวะเหมาะที่จะเข้าลงทุน และเป็นช่วงที่ลูกค้ากำลังมองหาการบริหารจัดการภาษีในช่วงปลายปี จึงเปิดเสนอขายกองทุนเปิด ทิสโก้ เวียดนาม อิควิตี้ เพื่อการเลี้ยงชีพ (TVIETNAMRMF-A) ความเสี่ยงระดับ 6 (เสี่ยงสูง) กองทุนรวมตราสารทุน ลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมตราสารทุนต่างประเทศ และ/หรือกองทุนรวมอีทีเอฟตราสารทุนต่างประเทศ ที่มีนโยบายการลงทุนในตราสารทุนของบริษัทที่จดทะเบียนจัดตั้งในประเทศเวียดนามหรือจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ประเทศเวียดนาม หรือบริษัทที่ดำเนินธุรกิจหลักหรือมีรายได้หลักจากการดำเนินธุรกิจในประเทศเวียดนาม เสนอขายครั้งแรก (IPO) วันที่ 21-30 พฤศจิกายน 2565

ทั้งนี้ เบื้องต้นกองทุน TVIETNAM จะกระจายความเสี่ยงเข้าไปลงทุนในหุ้นเวียดนามผ่าน 3 กองทุนหลัก คือ 1. กองทุน LionGlobal Vietnam Fund 2. กองทุน Lumen Vietnam Fund และ 3. VanEck Vietnam ETF ทั้งนี้ เพื่อให้กองทุนมีการกระจายการลงทุนไปยังกลุ่มหุ้นเวียดนามทั้งขนาดใหญ่ ขนาดกลาง และขนาดเล็ก เพื่อให้ความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนโดยรวมไม่กระจุกตัวยังกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง

สำหรับตัวอย่างบริษัทที่กองทุนหลักเข้าไปลงทุน เช่น Vietcombank เป็นธนาคารของรัฐที่จัดตั้งขึ้นเพื่อสนับสนุนการให้บริการสินเชื่อเพื่อการนำเข้าและส่งออก ซึ่งเป็นกลจักรสำคัญต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของเวียดนาม มีอัตราการเติบโตของรายได้เฉลี่ยต่อปี (CAGR) ตั้งแต่ปี 2559 – 2563 อยู่ที่ 17.31% ขณะที่อัตราส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ต่อสินเชื่อรวม (NPL Ratio) ไตรมาส 4/2564 อยู่ในระดับต่ำที่ 0.64% (ที่มา: Vietcombank, TISCOASSET) อีกตัวอย่างคือ HOA PHAT ผู้ผลิตเหล็กรายใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และมีส่วนแบ่งการตลาดผลิตภัณฑ์เหล็ก และท่อเหล็กอันดับ 1 ในเวียดนาม ซึ่งรายได้และกำไรมีโอกาสเติบโตไปตามเศรษฐกิจของเวียดนามที่มีแนวโน้มเติบโตสูง (ที่มา: www.hoaphat.com/annual-report-2020X)