AWC ฟาดกำไร 1 พันลบ.ทุ่ม 8 พันลบ. ซื้อเวสทินที่ภูเก็ต-แกรนด์เมอร์เคียวที่กทม.

HoonSmart.com>>”แอสเสท เวิรด์ฯ”โชว์กำไร 1,026 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 49.4% รับการเติบโตแข็งแกร่งนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มีศักยภาพเพิ่มขึ้น รวม 9 เดือนโกยกำไรสุทธิ 2,448 ล้านบาท อัตรากำไรเพิ่มเป็น 39% จาก 34%  เท่ากับก่อนโควิด เดินหน้าลงทุน 8,856 ล้านบาท เทกโอเวอร์  2 โรงแรมบวกงบพัฒนา “เดอะ เวสทิน สิเหร่ เบย์ รีสอร์ท แอนด์ สปา ภูเก็ต”  3,551 ล้านบาท และ”โรงแรมแกรนด์ เมอร์เคียว แบงค็อก วินด์เซอร์”  5,306 ล้านบาท 

นางวัลลภา ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป (AWC) เปิดเผยผลประกอบการงวดไตรมาส 3/2565 มีกำไรสุทธิ 1,026 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 49.4% มีรายได้รวม 3,727 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 46.8% มาจากพอร์ตทรัพย์สินคุณภาพและกลยุทธ์การเตรียมพร้อมขององค์กรสอดรับกับมาตรการการเปิดประเทศอย่างเต็มรูปแบบ และการเพิ่มขึ้นของนักท่องเที่ยวที่มีศักยภาพ รวมถึงทรัพย์สินคุณภาพที่มีการเพิ่มมูลค่าอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้บริษัทสร้างผลกำไรเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งและรวดเร็ว

ส่วนผลงานรวม 9 เดือนแรกของปีมีกำไรสุทธิทั้งสิ้น 2,448 ล้านบาท เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด จากกลุ่มธุรกิจโรงแรมและการบริการที่เติบโตขึ้นอย่างแข็งแกร่ง ในขณะที่กลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพาณิชย์ ก็ดีต่อเนื่อง สะท้อนถึงความสามารถในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีศักยภาพ และกลยุทธ์การปรับโครงสร้างการบริหารต้นทุนและควบคุมค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ

“ไตรมาส 3/2565 บริษัทเพิ่มอัตรากำไรเป็น 39% จาก 34% สามารถกลับมาในอัตราเท่ากับก่อนสถานการณ์โควิด ถึงแม้จะมีจำนวนนักท่องเที่ยวกลับมาเพียงครึ่งเดียวเฉลี่ยต่อวันเมื่อเทียบกับปี 2562 เพราะบริษัทกลับมาเติบโตอย่างแข็งแกร่งในทุกเซ็กเมนต์”

AWC ยังคงมุ่งมั่นยกระดับอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ของไทย พร้อมเดินหน้าพัฒนาโครงการคุณภาพอย่างต่อเนื่อง โดยไตรมาส 3 ที่ผ่านมาได้ลงนามความร่วมมือกับพันธมิตรระดับโลกมากมาย อาทิ การลงนามสัญญาร่วมทุน และจัดตั้ง บริษัท เอดับบลิวซี ฮอสปิทอลลิตี้ เดเวลอปเมนท์ เพื่อเข้าร่วมลงทุนในธุรกิจโรงแรมที่มีศักยภาพในแหล่งท่องเที่ยวชั้นนำของประเทศไทย เพื่อพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนในประเทศ บริษัทมีแผนเพิ่มทุนรวมเป็นจำนวนทั้งสิ้น 10,800 ล้านบาท รวมถึงการร่วมมือกับ Nobu Hospitality แบรนด์ไลฟ์สไตล์สุดหรูระดับโลก แมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล และธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) และ ดิจิทัล เวนเจอร์ส และความร่วมมือกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และพันธมิตร  ยกระดับประเทศไทยก้าวสู่การเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวยั่งยืนระดับโลก

ด้านคณะกรรมการบริษัทฯมีมติอนุมัติให้บริษัทฯ และ/หรือ บริษัทย่อยเข้าลงทุนในโครงการ เดอะ เวสทิน สิเหร่ เบย์ รีสอร์ท แอนด์ สปา ภูเก็ต โดยมีมูลค่าสุทธิจำนวน 2,450 ล้านบาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) และอนุมัติงบลงทุนเพื่อใช้ในการพัฒนาโครงการ จำนวนประมาณ 1,101 ล้านบาท (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) มูลค่าเงินลงทุนรวม ประมาณ 3,551 ล้านบาท และให้ซื้อหุ้นทั้งหมดในบริษัท วินเซอร์ โฮเต็ล เพื่อได้ทรัพย์สินโรงแรมแกรนด์ เมอร์เคียว แบงค็อก วินด์เซอร์  มีมูลค่ารวมสุทธิ  3,184.4 ล้านบาท และอนุมัติงบลงทุน ประมาณ 2,121 ล้านบาท (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)  รวมประมาณ 5,306 ล้านบาท ทำให้บริษัท วินเซอร์ โฮเต็ล  เป็นบริษัทย่อยของบริษัทฯ