HoonSmart.com>> “ศรีนานาพร มาร์เก็ตติ้ง” โชว์งบ Q3/65 กำไรพุ่ง 139% แตะระดับ 142 ล้านบาท ทำนิวไฮ กวาดรายได้รวม 1,487 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 51% รับเปิดประเทศท่องเที่ยวฟื้น ปรับโฉมสินค้าใหม่ผลตอบรับเยี่ยม ดันยอดขายนิวไฮตามนัด ลุยออกสินค้าใหม่เพิ่มโค้งสุดท้ายของปี หนุนรายได้ปีนี้ทะลุเป้า 5,000 ล้านบาท สร้างสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง พร้อมเดินหน้าสายการผลิตดันยอดขายในเวียดนามโต 7 เท่าใน 5 ปี
นายวิโรจน์ วชิรเดชกุล รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายงานธุรกิจในประเทศ บริษัท ศรีนานาพร มาร์เก็ตติ้ง (SNNP) ผู้นำผลิตภัณฑ์เครื่องดื่ม และขนมขบเคี้ยวของประเทศไทย เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินงาน สิ้นสุดวันที่ 30 ก.ย.2565 สำหรับงวดไตรมาส 3/2565 มีกำไรสุทธิ 142 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 82 ล้านบาท หรือ 139% จากงวดเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 60 ล้านบาท ส่วนรายได้รวม 1,487 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 501 ล้านบาท หรือ 51% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อนมีรายได้รวมเท่ากับ 986 ล้านบาท
ในขณะที่งวด 9 เดือนของปี 2565 บริษัทฯมีกำไรสุทธิจากธุรกิจหลัก ซึ่งไม่รวมกำไรพิเศษ อยู่ที่ 383 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 165 ล้านบาท หรือ 76% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อนโดยมีกำไรสุทธิดังกล่าวอยู่ที่ 218 ล้านบาท ส่วนรายได้รวมจากธุรกิจหลักอยู่ที่ 3,924 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 861 ล้านบาท หรือ 28% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อนมีรายได้รวมเท่ากับ 3,063 ล้านบาท
ปัจจัยที่สนับสนุนให้กำไรสุทธิปรับตัวเพิ่มขึ้น และทำสถิตินิวไฮ เนื่องจากนโยบายการเปิดประเทศสนับสนุนการท่องเที่ยวฟื้นตัวอย่างชัดเจน ทำให้กำลังซื้อเพิ่มสนับสนุนยอดขายในประเทศและต่างประเทศขยายตัวได้ดี และสามารถเติบโตได้มากกว่าภาพรวมของอุตสาหกรรม ขณะที่บริษัทฯมีการวางกลยุทธ์ทางด้านการตลาดจะมีการปรับโฉมสินค้า รวมถึงการเปิดตัวหนังโฆษณาชุดใหม่ๆ เพื่อสื่อสารทางการตลาดกับกลุ่มผู้บริโภค และเดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ทยอยออกสู่ตลาด เพื่อรองรับความต้องการของผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งมีกระแสตอบรับเป็นอย่างดี
ทั้งนี้ การเปิดโรงงาน S.T.FOOD MARKETING ในประเทศเวียดนามเมื่อช่วงไตรมาส3 ที่ผ่านมาจะช่วยสนับสนุนรายได้ และกำไรให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งจะใช้เป็นฐานการผลิต และศูนย์กระจายสินค้าที่สำคัญไปยังต่างประเทศมากขึ้นในอนาคต และมีแนวโน้มเติบโตแบบก้าวกระโดด ซึ่งบริษัทฯได้ตั้งเป้าหมายยอดขายในเวียดนามในปี 2569 อยู่ที่ประมาณ 2,000 ล้านบาท ซึ่งถือว่ามีอัตราการเติบโตถึง 7 เท่า ภายในระยะเวลา 5 ปี
รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายงานธุรกิจในประเทศ กล่าวอีกว่า แนวโน้มการดำเนินธุรกิจในช่วงท้ายปี บริษัทฯยังมีแผนออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ตามแผนที่วางไว้ เช่น ผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์สินค้าหลักอย่าง “เจเล่ “ และ “เบนโตะ” สามารถขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งจากผลงานในช่วง 9 เดือน ยังเติบโตได้ดี ทำให้มั่นใจว่าภาพรวมทั้งปี2565 แนวโน้มรายได้ในปีนี้จะพุ่งแตะที่ระดับ 5,000 ล้านบาท สร้างสถิติสูงสุดใหม่ตามเป้าหมายที่วางไว้