HoonSmart.com>>”อาคม เติมพิทยาไพสิฐ”ขอความร่วมมือแบงก์รัฐ ตรึงดอกเบี้ยเงินกู้ให้นานที่สุด ได้แรงหนุน เบื้องต้นคาดถึงปลายปี และขยับดอกเบี้ยเงินฝากขึ้นบ้าง ยันเฟดปรับขึ้นดอกเบี้ย ไทยไม่จำเป็นต้องตาม ธปท.พิจารณาหลายปัจจัยประกอบ รมว.คลังยอมรับเตรียมแจกของขวัญปีใหม่ กำลังพิจารณาหลายมาตรการกระตุ้นผู้บริโภค รัฐตั้งเป้าปีนี้เร่งแก้หนี้ภาคประชาชน
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้สถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ ตรึงอัตราดอกเบี้ยเพื่อช่วยเหลือประชาชนให้นานที่สุด โดยเบื้องต้นคาดว่าจะถึงช่วงปลายปีนี้ ซึ่งทุกแห่งต่างพร้อมให้ความร่วมมืออย่างดี ขณะที่อัตราดอกเบี้ยเงินฝากก็อาจจะมีการขยับเพิ่มขึ้นบ้างเพื่อให้สอดคล้องกับทิศทางอัตราดอกเบี้ยในปัจจุบัน แม้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะมีการปรับขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ไทยคงตามเฟดตลอดไม่ได้ เพราะยังมีปัจจัยอีกหลายด้านที่ต้องพิจารณา ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มีการพิจารณาหลายอย่างประกอบ โดยดูทั้งทิศทางของภาคธุรกิจโดยเฉพาะขนาดเล็ก และประชาชนว่าสามารถรับได้มากน้อยแค่ไหน
สำหรับมาตรการกระตุ้นการบริโภค เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้คนไทยนั้น ขณะนี้กระทรวงการคลังยังอยู่ระหว่างการพิจารณา ยอมรับว่ามีหลายมาตรการที่กำลังดูอยู่
เมื่อวันที่ 4 พ.ย. 2565 นายอาคมได้กล่าวในพิธีเปิดงานมหกรรม “ร่วมใจแก้หนี้ : มีหนี้ต้องแก้ไข เริ่มต้นใหม่อย่างยั่งยืน” สัญจร ครั้งที่ 1 กรุงเทพฯ ว่า งานนี้เป็นความร่วมมือระหว่างกระทรวงการคลัง ธปท. และสมาคมสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ ผนึกกำลังเพื่อร่วมแก้ไขหนี้ให้กับลูกค้าและประชาชน พบว่ามีผู้ลงทะเบียนเพื่อร่วมงานแล้วกว่า 1.25 หมื่นราย และคาดว่าจะเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ
“รัฐบาลได้ตั้งเป้าหมายให้ปี 2565 เป็นปีแห่งการแก้หนี้ภาคประชาชน พบว่าประชาชนส่วนใหญ่เดือดร้อนจากภาระหนี้สิน หลังจากสถานการณ์โควิด-19 จึงอยากให้ประชาชนที่เดือดร้อนมาใช้สิทธิประโยชน์ที่สถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐจัดเตรียมไว้ให้” รมว.คลัง กล่าว
สำหรับการจัดงานมหกรรมร่วมใจแก้หนี้ มี 4 ครั้ง 4 ภูมิภาคทั่วประเทศ ครั้งที่ 2 ที่จังหวัดขอนแก่น วันที่ 18-20 พ.ย. 2565 ณ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติขอนแก่น, ครั้งที่ 3 จังหวัดเชียงใหม่ วันที่ 16-18 ธ.ค. 2565 ณ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเชียงใหม่, ครั้งที่ 4 จังหวัดชลบุรี วันที่ 20-22 ม.ค. 2566 ณ ศาลาประชาคมเทศบาลเมืองบ้านสวน และครั้งที่ 5 จังหวัดสงขลา วันที่ 27-29 ม.ค. 2566 ณ หอประชุมมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์