หุ้นปิดบวก 0.60 จุด กังวลเฟดไม่ชะลอขึ้นดบ. ต่างชาติซื้อ 3 พันลบ.

HoonSmart.com>>ตลาดหุ้นปิดบวก 0.60 จุด แกว่งแคบ-ซึม กังวลสัญญาณจากเฟดที่ยังไม่ยุติขึ้นดอกเบี้ย-อาจไม่ชะลอเร่งขึ้นดอกเบี้ย นักลงทุนต่างประเทศซื้อสุทธิ 3,029.23 ล้านบาท ด้านนักลงทุนในประเทศขายสุทธิ 1,479.99 ล้านบาท ส่วนแนวโน้มวันพรุ่งนี้แกว่งตัวในกรอบแนวรับ 1,612 แนวต้าน 1,631-1,642 จุด

ตลาดหลักทรัพย์วันที่ 3 พ.ย.2565 ดัชนีปิดที่ระดับ 1,625.62 จุด เพิ่มขึ้น 0.60 จุด หรือ +0.04% มูลค่าซื้อขาย 52,198.84 ล้านบาท โดยดัชนีแตะสูงสุด 1,628.78 จุด ต่ำสุด 1,619.99 จุด

นักลงทุนต่างประเทศซื้อสุทธิ 3,029.23 ล้านบาท และบัญชีหลักทรัพย์ขายสุทธิ 39.21 ล้านบาท ด้านนักลงทุนในประเทศขายสุทธิ 1,479.99 ล้านบาท และนักลงทุนสถาบันในประเทศขายสุทธิ 1,510.03 ล้านบาท

นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิจัย บล.กรุงไทย เอ็กซ์สปริง กล่าวว่า ตลาดหุ้นวันนี้แกว่งแคบ หลังธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ตามคาด แต่กังวลการส่งสัญญาณจากเฟดที่ไม่เป็นไปอย่างที่คาด โดยมองการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอาจสูงกว่าที่เคยพูดไว้เดิม และยังไม่ยุติการขึ้นดอกเบี้ย รวมถึงอาจจะไม่ชะลอการเร่งขึ้นดอกเบี้ยด้วย สร้างความกังวลให้กับตลาด ส่งผลให้ตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชีย และตลาดในยุโรปเทรดบ่ายนี้ต่างปรับตัวลง

ส่วนตลาดหุ้นไทยบวกได้สวนทางตลาดต่างประเทศ เป็นผลจากแรงขายในตลาดต่างประเทศออกมาจากหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยี ซึ่งตลาดบ้านเราไม่มี แต่ก็กลัวนักลงทุนต่างชาติจะขาย ทำให้ตลาดแกว่งแคบในลักษณะซึม พร้อมให้ติดตามการทยอยประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนต่อไป ซึ่งอาจทำให้เล่นหุ้นได้เป็นรายตัว และติดตามตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐที่จะออกมาในวันพรุ่งนี้ (4 พ.ย.)

ส่วนแนวโน้มตลาดหุ้นในวันที่ 4 พ.ย.2565 ตลาดคงจะแกว่งตัวในกรอบแนวรับ 1,612 จุด แนวต้าน 1,631-1,642 จุด

5 อันดับหุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่
PTTEP ปิดที่ 188.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท หรือ +0.80% มูลค่าซื้อขาย 2,278.58 ล้านบาท
KBANK ปิดที่ 149.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท หรือ +1.70% มูลค่าซื้อขาย 2,184.29 ล้านบาท
BTG ปิดที่ 37.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาท หรือ +3.45% มูลค่าซื้อขาย 2,012.03 ล้านบาท
PTT ปิดที่ 35.75 บาท ลดลง 0.25 บาท หรือ -0.69% มูลค่าซื้อขาย 1,558.68 ล้านบาท
DELTA ปิดที่ 620.00 บาท เพิ่มขึ้น 22.00 บาท หรือ +3.68% มูลค่าซื้อขาย 1,546.99 ล้านบาท