หุ้นปิดเช้าลบ 1.20 จุด สัญญาณดบ.เฟดยังไม่ผ่านจุดพีค

HoonSmart.com>> ดัชนีหุ้นปิดภาคเช้าที่ 1,623.82 จุด ลดลง 1.20 จุด เช่นเดียวกับตลาดภูมิภาค หลังเฟดขึ้นดอกเบี้ย 0.75% ตามคาด แต่ส่งสัญญาณอัตราดอกเบี้ยยังไม่ผ่านจุดพีค และนโยบาย Zero Covid ของจีนก็ยังไม่แน่นอน แนวโน้มภาคบ่ายแกว่งทรงตัว แนวรับ 1,620-1,618 แนวต้าน 1,626 จุด

ตลาดหุ้นวันที่ 3 พ.ย.2565 ดัชนีปิดภาคเช้าที่ระดับ 1,623.82 จุด ลดลง 1.20 จุด หรือ -0.07% มูลค่าการซื้อขาย 27,850.92 ล้านบาท โดยดัชนีขึ้นไปแตะ 1,627.74 จุด และต่ำสุด 1,619.99 จุด

นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นเช้านี้เคลื่อนไหวทรงตัว โดยตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่ปรับตัวลง หลังธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% เป็นไปตามที่คาดไว้ แต่มีการส่งสัญญาณด้วยการมองจุดสูงสุดของอัตราดอกเบี้ยในปี 2566 ที่ 4.5-4.75% หรืออาจจะสูงกว่านั้น แสดงให้เห็นว่าอัตราดอกเบี้ยยังไม่ผ่านจุดพีค แต่การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมีมุมมองชะลอ โดยการประชุมเฟดเดือนธ.ค.คาดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50%

อีกทั้งนโยบายเรื่อง Zero Covid ของจีนก็กลับไปกลับมา ล่าสุดเห็นว่าจะไม่เกิดขึ้นในเร็ว ๆ นี้ ทำให้ตลาดหุ้นฮ่องกงปรับตัวลงมาก ทั้งนี้ ตลาดได้ปรับขึ้นไปมากพอควรแล้วทำให้วันนี้เจอ Sell on fact ส่งผลให้ตลาดปรับฐานในช่วงสั้น อย่างไรก็ดี ตลาดได้แรงหนุนจากหุ้นในกลุ่มธนาคาร และกลุ่มประกัน ที่ปรับขึ้นได้ค่อนข้างดี ส่วนหนึ่งอาจขึ้นมาตอบรับอัตราผลตอบแทนพันธบัตร (Bond yield) ที่ปรับตัวขึ้น พร้อมให้ติดตามตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในวันศุกร์นี้ (4 พ.ย.)

สำหรับแนวโน้มภาคบ่ายตลาดคงจะเคลื่อนไหวทรงตัว โดยมีแนวรับ 1,620-1,618 จุด ส่วนแนวต้าน 1,626 จุด

5 อันดับหุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่
PTTEP ปิดที่ 188.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท หรือ +1.07% มูลค่าซื้อขาย 1,510.08 ล้านบาท
BTG ปิดที่ 37.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท หรือ +2.07% มูลค่าซื้อขาย 1,230.96 ล้านบาท
KBANK ปิดที่ 149.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท หรือ +1.36% มูลค่าซื้อขาย 1,152.40 ล้านบาท
PTT ปิดที่ 35.75 บาท ลดลง 0.25 บาท หรือ -0.69% มูลค่าซื้อขาย 1,088.58 ล้านบาท
DELTA ปิดที่ 610.00 บาท เพิ่มขึ้น 12.00 บาท หรือ +2.01% มูลค่าซื้อขาย 783.97 ล้านบาท