MST กำไร Q3/65 วูบ 36% เหลือ 118 ลบ. รายได้นายหน้าซื้อขายลด

HoonSmart.com>>HoonSmart.com>> “บล.เมย์แบงก์” เปิดกำไรไตรมาส 3/65 ลดเหลือ 118 ล้านบาท ร่วง 36% จากงวดปีก่อน รายได้ค่านายหน้าซื้อขายลดลง ตามวอลุ่มตลาดหลักทรัพย์ลดลง 23% จาก 9.3 หมื่นล้านบาท/วัน เหลือ 7.12 หมื่นล้านบาท/วัน ด้านพอร์ตลงทุนกำไร 40.72 ล้านบาท ฉุดงวด 9 เดือนกำไรเหลือ 491 ล้านาท ลดลง 22%

บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) หรือ MST เปิดเผยผลการดำเนินงานไตรมาส 3 ปี 2565 กำไรสุทธิ 117.69 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.21 บาท ลดลง 35.91% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 183.64 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.32 บาท

ส่วนงวด 9 เดือน ปี 2565 กำไรสุทธิ 491.03 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.86 บาท ลดลง 22.27% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 631.68 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 1.11 บาท

ในงวดไตรมาส 3 ปี 2565 บริษัทฯ มีรายได้ค่านายหน้าลดลง 269.20 ล้านบาท จาก 614.38 ล้านบาท เหลือ 345.18 ล้านบาท หรือลดลง 43.82% เนื่องจากรายได้ค่านายหน้าจากการซื้อขายหลักทรัพย์ลดลง 264.63 ล้านบาท จาก 569.09 ล้านบาท เหลือ 304.46 ล้านบาท หรือลดลง 46.50% เป็นผลจากมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ลดลงจาก 92,912.47 ล้านบาท/วัน เหลือ 71,210.58 ล้านบาท/วัน หรือ ลดลง 23.36% และสัดส่วนนักลงทุนบุคคล ซึ่งเป็นส่วนรายได้หลักของบริษัทลดลงจาก 45.68% เหลือ 37.74% เป็นผลให้มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยของนักลงทุนบุคคลลดลงจาก 42,445.50 ล้านบาท/วัน เหลือ 26,874.37 ล้านบาท/วัน หรือลดลง 36.68%

รายได้ค่านายหน้าจากการซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าลดลง 3.78 ล้านบาท หรือ 8.49% และมีรายได้ค่านายหน้าอื่น นอกจากนี้มีรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการเพิ่มขึ้น 38.31 ล้านบาท หรือ 80.35% เป็น 85.99 ล้านบาท เนื่องมาจากค่าธรรมเนียมจากการจัดจำหน่ายหลักทรัพย์เพิ่มขึ้น 33.09 ล้านบาท และค่าที่ปรึกษาทางการเงินเพิ่มขึ้น 11.54 ล้านบาท ในขณะที่ค่าธรรมเนียมการขายและการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนลดลง 6.13 ล้านบาท และค่าธรรมเนียมและบริการอื่นลดลง 0.19 ล้านบาท

รายไดอื่นเพิ่มขึ้น 51.73 ล้านบาท หรือ 26.76% เป็น 245.02 ล้านบาท เนื่องมาจากรายได้ดอกเบี้ยจากเงินฝากในสถาบันการเงินและพันธบัตรรัฐบาลเพิ่มขึ้น 5.48 ล้านบาท กำไรและผลตอบแทนจากเครื่องมือทางการเงินเพิ่มขึ้น 40.72 ล้านบาท และรายได้อื่นเพิ่มขึ้น 10.22 ล้านบาท ในขณะที่รายได้ดอกเบี้ยเงินให้กู้ยืมเพื่อซื้อหลักทรัพย์ลดลง

ด้านค่าใช้จ่ายรวมของบริษัทลดลง 97.20 ล้านบาท หรือ 15.44% เหลือ 532.33 ล้านบาท