BTS เตรียมออก ‘หุ้นกู้ส่งเสริมความยั่งยืน’ 4 รุ่น เสนอขาย ปชช.ทั่วไปครั้งแรกในไทย 

HoonSmart.com>>บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ เตรียมออกและเสนอขายหุ้นกู้ส่งเสริมความยั่งยืน (Sustainability-Linked Bonds : SLB) ให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรกในประเทศไทย จำนวน 4 รุ่น จ่ายดอกเบี้ยทุก 6 เดือน อัตราดอกเบี้ยสุดท้ายรอประกาศ อันดับความน่าเชื่อถือที่ระดับ “A” จากทริสเรทติ้ง พร้อมแต่งตั้ง 5 สถาบันการเงินเป็นผู้จัดการการจัดจำหน่าย คาดเสนอขายปลายเดือนพ.ย.นี้ มั่นใจ “หุ้นกู้ส่งเสริมความยั่งยืน” จะได้รับการตอบรับที่ดี

นายสุรยุทธ ทวีกุลวัฒน์ ผู้อำนวยการใหญ่สายการเงิน บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (BTS) ผู้เสนอขายหุ้นกู้ส่งเสริมความยั่งยืนต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรกในประเทศไทย เปิดเผยว่า บริษัทฯ อยู่ระหว่างการยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) เพื่อขอออกและเสนอขายหุ้นกู้ส่งเสริมความยั่งยืน (Sustainability-Linked Bonds : SLB) ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) จำนวน 4 รุ่น อายุประมาณ 2-10 ปี จ่ายดอกเบี้ยทุก ๆ 6 เดือน ตลอดอายุหุ้นกู้ โดยจะมีการประกาศผลตอบแทนอีกครั้ง

ทั้งนี้ หุ้นกู้ดังกล่าวได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือในระดับ “A” จากบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2565 และในการเสนอขายหุ้นกู้ฯ แก่ผู้ลงทุนประชาชนทั่วไปในครั้งนี้ บริษัทฯ ได้แต่งตั้งสถาบันการเงินชั้นนำ 5 แห่ง เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่าย ประกอบด้วย ธนาคารกรุงเทพ จำกัด, ธนาคารกรุงไทย, ธนาคารกสิกรไทย, ธนาคารไทยพาณิชย์ และธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย โดยคาดว่าจะเสนอขายในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน 2565 กำหนดการจองซื้อขั้นต่ำ 100,000 บาท และทวีคูณครั้งละ 100,000 บาท

“ประเด็นเรื่องความยั่งยืนเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับทุกคน โดยบริษัทฯ มีปณิธานที่จะแนะนำหุ้นกู้เพื่อส่งเสริมความยั่งยืนให้เป็นที่รู้จักต่อผู้ลงทุนในวงกว้าง จึงได้จัดให้มีการออกและเสนอขายหุ้นกู้ส่งเสริมความยั่งยืนหรือ SLB สำหรับผู้ลงทุนประชาชนทั่วไปในครั้งนี้ ซึ่งถือว่าเป็นครั้งแรกในประเทศไทย โดยก่อนหน้านี้บริษัทฯ เคยออกและเสนอขาย SLB ให้แก่ผู้ลงทุนรายใหญ่และผู้ลงทุนสถาบัน ซึ่งก็ได้รับการตอบรับและประสบความสำเร็จด้วยดี ทำให้เราเชื่อว่าการออกและเสนอขาย SLB ในครั้งนี้จะได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้ลงทุนทั่วไปด้วยเช่นกัน เพราะนอกจากจะได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนแล้ว การลงทุนในหุ้นกู้ส่งเสริมความยั่งยืนยังเปิดโอกาสให้ผู้ลงทุนทั่วไปได้มีส่วนร่วมในการสร้างความยั่งยืนไปพร้อม ๆ กับบริษัทฯ อีกด้วย” ผู้อำนวยการใหญ่สายการเงิน บีทีเอส กรุ๊ปฯ กล่าว

ทั้งนี้ หุ้นกู้ส่งเสริมความยั่งยืนเป็นหุ้นกู้ที่มีข้อตกลงหรือเงื่อนไขให้ผู้ออกหุ้นกู้มีการดำเนินการตามภาระผูกพันเพิ่มเติม โดยข้อตกลงหรือเงื่อนไขในการดำเนินงานตามภาระผูกพันดังกล่าว จะอ้างอิงกับผลสำเร็จหรือผลการดำเนินการตามตัวชี้วัด (KPI) และเป้าหมายด้านความยั่งยืน (SPT) ของผู้ออกหุ้นกู้ในอนาคตที่จะทำให้เกิดผลดีต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม สำหรับตัวชี้วัดและเป้าหมายด้านความยั่งยืนของ “บีทีเอส กรุ๊ปฯ” ที่ใช้ในการอ้างอิงสำหรับการออกและเสนอขายหุ้นกู้ฯ ในครั้งนี้ มี 2 ด้าน ได้แก่ 1) ตัวชี้วัดด้านประสิทธิภาพในการใช้ไฟฟ้าในการเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียว (ซึ่งเป็นสายหลักของบริษัทในปัจจุบัน) โดยบีทีเอส กรุ๊ปฯ มีเป้าหมายลดการใช้ไฟฟ้าให้ได้ 8% จากการดำเนินงานปกติ ภายใน 9 ปี หรือ ภายในปี 2574 และ 2) ตัวชี้วัดด้านปริมาณการใช้ไฟฟ้าจากแหล่งพลังงานหมุนเวียน โดยบริษัทมีเป้าหมายในการใช้ไฟฟ้าจากแหล่งพลังงานหมุนเวียนไม่น้อยกว่า 10% ในแต่ละปีของการใช้ไฟฟ้าสำหรับการดำเนินงานของรถไฟฟ้าสายสีเขียว สำหรับรายละเอียดของตัวชี้วัดและเป้าหมายด้านความยั่งยืนดังกล่าวสามารถศึกษาเพิ่มเติมได้จากแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง)

หุ้นกู้ชุดที่อายุยาวที่สุดหรือรุ่นอายุประมาณ 10 ปี จะมีการประเมินผล 4 ครั้ง โดยวันประเมินผล คือ ช่วงสิ้นปีงบประมาณของบริษัท ในวันที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2567, 2569, 2571 และ 2574 ขณะที่รุ่นที่อายุลดหลั่นลง จำนวนครั้งในการประเมินผลก็จะน้อยลง ทั้งนี้ หากบีทีเอส กรุ๊ปฯ ไม่สามารถบรรลุเป้าหมายด้านความยั่งยืนทั้งสองเป้าหมายภายในวันประเมินผลแต่ละครั้ง บริษัทฯ จะมีภาระผูกพันเป็นจำนวนเงินเทียบเท่าอัตรา 0.10% ต่อปี ของมูลค่าการเสนอขายของหุ้นกู้ชุดนั้น ๆ หรือหากไม่สามารถบรรลุเป้าหมายด้านความยั่งยืนอย่างใดอย่างหนึ่งภายในวันประเมินผล จะมีภาระผูกพันเป็นจำนวนเงิน เทียบเท่าอัตรา 0.05% ต่อปี ของมูลค่าการเสนอขายของหุ้นกู้ชุดนั้น ๆ โดยภาระผูกพัน คือ บริษัทฯ ต้องดำเนินการผลิตหรือจัดหาไฟฟ้าจากแหล่งพลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy Credits: RECs) จากหน่วยงาน และ/หรือ องค์กรที่เป็นที่ยอมรับในระดับประเทศ และ/หรือ สากล ซึ่งหน้าที่เพิ่มเติมดังกล่าวเป็นการยืนยันถึง Commitment ที่บริษัทฯ มีต่อประเด็นเรื่องความยั่งยืนและสิ่งแวดล้อม

ผู้อำนวยการใหญ่สายการเงิน บีทีเอส กรุ๊ปฯ กล่าวด้วยว่า การออกหุ้นกู้ส่งเสริมความยั่งยืนของบริษัทฯ ในครั้งนี้เป็นไปตาม กลยุทธ์ระยะยาวด้านการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ (Climate Strategy) ของบีทีเอส กรุ๊ปฯ นั่นคือการคงสถานะความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutral ) และกำหนดให้เพิ่มสัดส่วนการใช้ไฟฟ้าที่มาจากแหล่งพลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy) อย่างน้อย 10% ของการดำเนินงาน ปัจจุบันบริษัทฯ ได้รับการยอมรับในด้านการดำเนินธุรกิจที่ยั่งยืนทั้งในระดับประเทศและระดับสากล อาทิ ได้รับการคัดเลือกให้อยู่ในดัชนีความยั่งยืนของดาวโจนส์ (DJSI) เป็นระยะเวลา 4 ปี ติดต่อกัน (ปี 2561-2564) ได้รับคัดเลือกเป็นสมาชิกดัชนี FTSE4Good Index Series ประจำปี 2565 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 6 และได้รับการจัดอันดับให้เป็นที่ 1 ของโลก 2 ปีซ้อน จาก DJSI (DJSI Industry Leader) ในกลุ่มอุตสาหกรรมคมนาคมและโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคม โดยล่าสุดได้รับคัดเลือกให้เป็นบริษัทในกลุ่มขนส่งทางรางแห่งแรกและแห่งเดียวในโลกที่ได้รับการรับรองว่าเป็นบริษัทที่มีการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์สุทธิเป็นศูนย์หรือ Carbon Neutral Transportation Company จากองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจกแห่งประเทศไทย

สำหรับ บมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ ดำเนินธุรกิจหลัก ประกอบด้วย ธุรกิจ Move ซึ่งเป็นผู้ให้บริการการคมนาคมแบบ door-to-door แก่ผู้โดยสารด้วยรูปแบบการเดินทางที่หลากหลายไม่ว่าจะเป็นทางราง ทางถนน ทางน้ำหรือทางอากาศ และเป็นผู้บุกเบิกรถไฟฟ้าบีทีเอสเป็นระยะเวลากว่า 20 ปี ธุรกิจ Mix หรือผู้ให้บริการทางการตลาดในรูปแบบ O2O โซลูชั่นส์ที่ครบวงจร ที่ครอบคลุมธุรกิจสื่อโฆษณา ธุรกิจบริการชำระเงินและธุรกิจการจัดจำหน่าย และธุรกิจ Match เป็นการแสวงหาโอกาสและความร่วมมือทางธุรกิจใหม่ๆ ผ่านการแบ่งปันแพลตฟอร์มของบริษัทฯ ให้แก่กลุ่มบริษัทและพันธมิตรทางธุรกิจ

ปัจจุบัน บริษัทฯ อยู่ระหว่างการยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลและร่างหนังสือชี้ชวนซึ่งยังไม่มีผลบังคับใช้ สำหรับผู้ลงทุนทั่วไปที่สนใจจองซื้อหุ้นกู้ส่งเสริมความยั่งยืน BTSG สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.sec.or.th/ หรือติดต่อผ่านผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ ดังต่อไปนี้

– ธนาคารกรุงเทพ โทร. 1333 หรือจองซื้อผ่านแอปพลิเคชัน Bualuang mBanking
– ธนาคารกรุงไทย โทร. 02-111-1111 หรือจองซื้อผ่านแอปพลิเคชัน Krungthai Next
– ธนาคารกสิกรไทย (โดยบุคคลธรรมดาจองซื้อผ่าน https://www.kasikornbank.com/kmyinvest)   รวมถึงบริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย  โทรศัพท์ 02-796-0000 หรือ 02-796-0011
– ธนาคารไทยพาณิชย์ โทร. 02-777-6784 หรือจองซื้อผ่านแอปพลิเคชัน SCB EASY
-ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย โทร. 02-626-7777 หรือจองซื้อผ่านแอปพลิเคชัน CIMB Thai Digital Banking