ดาวโจนส์ปิดบวก 122 จุด-ทำสถิติใหม่ครั้งที่ 14 ของปี

ดาวโจนส์ปิดบวก 122 จุด สร้างสถิติแตะระดับสูงสุดใหม่ครั้งที่ 14 ของปี คลายกังวลสงครามการค้าหลังสหรัฐ เม็กซิโกและแคนาคาบรรลุข้อตกลง ด้านหุ้นยุโรปปิดลบ ขณะที่ราคาน้ำมัน WTI ลดลง 7 เซนต์

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์(Dow Jones Industrial Average:DJIA) ปิดตลาดวันที่ 2 ตุลาคมยายน 2561 ที่ 26,773.94 จุดเพิ่มขึ้น 122.73 จุด หรือ 0.73 % ต่อเนื่องเป็นวันที่สองและแตะระดับสูงสุดใหม่ครั้งที่ 14 ของปี ขณะที่ความกังวลต่อสงครามการค้าลดลงหลังจากที่สหรัฐ เม็กซิโกและแคนาดาบรรลุข้อตกลงการค้า USMCA แทนข้อตกลงการค้า NAFTA เดิม

ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมนำโดยหุ้นอินเทลที่เพิ่มขึ้น 3.55% หุ้นโบอิ้งที่เพิ่มขึ้น 1.07%

หุ้นแคทเธอพิลลาร์เพิ่มขึ้น 1.67%

หุ้นเป๊บซี่-โค ลดลง 1.8%

หุ้นอเมซอนลดลง 1.65% หลังประกาศขึ้นค่าแรงพนักงานในสหรัฐเป็น 15 ดอลลาร์ต่อชั่วโมง

หุ้นเฟซบุ๊คลดลง 1.91% หลังจากนักวิเคราะห์ระบุว่าผู้ซื้อโฆษณาเริ่มกังวลหลังจากที่พบปัญหาด้านความปลอดภัยของระบบที่จะมีผลต่อบัญชีผู้ใช้

ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 2,923.43 จุด ลดลง 1.16 จุด,-0.04 %

ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,999.55 จุด ลดลง 37.76 จุด,-0.47%

ทางด้านตลาดยุโรปปิดลบ จากสถานการณ์การเมืองในอิตาลีหลังจากที่เริ่มมีสัญญานว่าอิตาลีอาจจะถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป ขณะที่อยู่ระหว่างการจัดงบประมาณขาดดุลเพิ่มขึ้น โดยเคลาเดีย โบร์กี ประธานคณะกรรมาธิการด้านงบประมาณของสภาล่างให้สัมภาษณ์ว่าเขาเชื่อวว่าปัญหาของประเทศจะแก้ไขได้หมดหากใช้สกุลเงินของตัวเอง ขณะที่รองนายกรัฐมนตรี ลุยจิ ดิ เมโอ กล่าวว่ารัฐบาลอิตาลีไม่ต้องการออกจากสหภาพยุโรปหรือใช้เงินสกุลประเทศ

ดัชนี FTSE 100 ปิดที่ 7,474.55 จุด ลดลง 21.12 จุด,-0.28%

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 381.94 จุด ลดลง 2.00 จุด,-0.52 %

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,467.89 จุด ไม่เปลี่ยนแปลง

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,287.58 จุด ลดลง 51.45 จุด,-0.42%

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายนลดลง 7 เซนต์ปิดที่ 75.23 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนธันวาคมลดลง 18 เซนต์ ปิดที่ 84.80 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล