SELIC เร่งเครื่อง Healthcare ปั้นรายได้ปีหน้าโต 50%

HoonSmart.com>>”ซีลิค คอร์พ” ผนวกจุดแข็ง “เทวกรรมโอสถ” รุก Consumer Healthcare ผลิตแผ่นแปะบรรเทาปวด Neoplast และ Neobun หนุนรายได้รวมปี 2566 โต 50%  ด้านราคาหุ้น  SELIC วันนี้ร้อนแรง เจอแคชบาลานซ์ 12 ต.ค.-1 พ.ย. 65

นางสาวยุวดี เอี่ยมสนธิทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีลิค คอร์พ หรือ SELIC ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายกาวอุตสาหกรรมสัญชาติไทย  เปิดเผยว่า บริษัทฯได้เพิ่มช่องทางสร้างรายได้โดยกระจายการลงทุนสู่ธุรกิจ Healthcare ด้วยการลงทุน 280 ล้านบาท เข้าถือหุ้น 50%ในบริษัทเทวกรรมโอสถผู้ผลิตและจำหน่ายน้ำมันมวยและลงทุน 550 ล้านบาทซื้อสินทรัพย์และแบรนด์ Neoplast และ Neobun จาก 3M โดยสินทรัพย์นี้จะอยู่ภายใต้บริษัท DVK Healthcare ถือหุ้น 100% โดยเทวกรรมโอสถ

บริษัทจะเริ่มรับรู้รายได้บางส่วนจากการลงทุนในไตรมาส 4 ปีนี้ คาดการณ์รายได้ในปี 2565 จะเติบโตประมาณ 20% และจะเดินเครื่องผลิตแผ่นแปะบรรเทาปวดและผลิตภัณฑ์อื่นๆ ภายใต้แบรนด์ Neoplast และ Neobun ได้อย่างช้าภายในไตรมาส 1/2566

ในปี 2566 สัดส่วนรายได้ของ SELIC จาก 3 ธุรกิจจะมีสัดส่วนใกล้เคียงกัน โดยรายได้จากธุรกิจกาวอุตสาหกรรม(Adhesive segment)ประมาณ 700 ล้านบาท, สติ๊กเกอร์และฉลาก(Self-adhesive segment) 700-800 ล้านบาท, และรายได้จากธุรกิจ Healthcare 500-700 ล้านบาท ส่งผลให้รายได้รวมในปี 2566 จะเติบโตประมาณ 50%

ส่วนแนวโน้มการเติบโตของธุรกิจกาวอุตสาหกรรมโดยเฉลี่ยปีละ 4-5% ธุรกิจสติ๊กเกอร์และฉลากเติบโตเฉลี่ยปีละ 5-6% ขณะที่ธุรกิจในกลุ่ม Healthcare นั้นเติบโตประมาณปีละ 10-12% ซึ่งจะช่วยหนุนในรายได้รวมของ SELIC เติบโตได้แข็งแกร่งในระยะยาว

สำหรับจุดแข็งและผลลัพธ์เชิงบวกจากการร่วมลงทุนกับเทวกรรมโอสถนั้น ทาง SELIC จะมีความเชี่ยวชาญในกระบวนการผลิตแผ่นแปะบรรเทาปวด ซึ่งคล้ายกับการผลิตสติ๊กเกอร์และฉลากที่บริษัททำอยู่ ขณะที่บริษัทเทวกรรมโอสถจะมีความเชี่ยวชาญเรื่องตัวยาบรรเทาปวด จากที่เป็นผู้ผลิตน้ำมันมวย และยังมีความเข้มแข็งในช่องทางการตลาดทั้งผ่านร้านขายยาและโรงพยาบาล รวมถึงโมเดิร์นเทรดด้วย

นางสาวยุวดี ระบุว่า SELIC ก้าวเข้าสู่ธุรกิจ Healthcare อย่างจริงจัง ตามแนวโน้มเทรนด์สายสุขภาพที่สังคมเริ่มให้ความสำคัญมากขึ้น สอดคล้องกับความต้องการทั่วโลกที่ในปัจจุบันหันมาให้ความสนใจและใส่ใจดูแลสุขภาพกันมากขึ้น มองว่าธุรกิจ Healthcare จะเป็นภาคธุรกิจที่มีศักยภาพการเติบโตอย่างต่อเนื่องจากปัจจัยต่างๆ เช่น การเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ และวิถีชีวิตไลฟ์สไตล์ของคนเมือง รวมทั้งการเข้าถึงระบบประกันสุขภาพต่างๆ

การเดินหน้าเข้าสู่ธุรกิจ Consumer Healthcare เป็นการดำเนินการตามเป้าหมายการขยายตลาดที่แตกต่างและหลากหลายไปจากธุรกิจหลัก (Diversity) และตลาด Healthcare เป็นหนึ่งในตลาดเป้าหมายที่ SELIC ตั้งเป้าไว้

นางสาวยุวดี กล่าวทิ้งท้ายว่า การเข้าถือหุ้นในเทวกรรมโอสถ จะช่วยสนับสนุนต่อการเติบโตของธุรกิจ และเป็นการรุกเข้าสู่อุตสาหกรรม Healthcare รวมถึงเป็นการต่อยอดจากโครงการลงทุนในการซื้อสินทรัพย์สำหรับการผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เวชภัณฑ์และเครื่องมือแพทย์ภายใต้แบรนด์ Neoplast และ Neobun ซึ่งจะส่งเสริมและสนับสนุนต่อกันและผลักดันให้เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผลต่อการดำเนินการในธุรกิจ Consumer Healthcare ของ SELIC

ด้านราคาหุ้น SELIC พุ่งแรง ระหว่างวันขึ้นไปซื้อขายบริเวณ 3.60 บาท เฉียดซิลลิ่ง ก่อนปิดที่ 3.46 บาท เพิ่มขึ้น 0.66 บาท คิดเป็น +23.57% ด้วยมูลค่าซื้อขายหนาแน่นถึง 360 ล้านบาท ตลาดหลักทรัพย์สั่งเข้าเกณฑ์แคชบาลานซ์ มีผลตั้งแต่วันที่   12 ต.ค.-1 พ.ย. 2565