เปิดทริคเด็ด “ณัฐวัฒน์” โกยกำไรหุ้น-ปิดทางแพ้

HoonSmart.com>>เผยแนวทางเล่นหุ้นมือเก๋า “ณัฐวัฒน์ แมงเม่าสำราญ” แนะกำเงินสดรักษาโอกาส เลือกเก็งกำไรเฉพาะหุ้นขาขึ้น อย่าทิ้งหุ้นพื้นฐานดีให้ SAP เมื่อหุ้นตก ส่วนหุ้นเล็ก-หุ้นเก็งกำไรเน้น “ซื้อแพงขายแพงกว่า” ถ้าผิดทางต้องฉับไวทำใจตัดขาดทุนให้เป็นรักษากระสุนไว้ลุยต่อ

นายณัฐวัฒน์ อ้นรัตน์ Senior Executive Vice President บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) เจ้าของเพจ แมงเม่าสำราญ ได้แนะนำกลยุทธ์การลงทุนในการบรรยาย “Trick Track Trade” เทรดให้ดีต้องมีทริค โดยระบุว่า การบริหารพอร์ตลงทุนจะต้องมีเงินสดไว้ตลอดเวลา เพื่อใช้สำหรับจัดแบ่งไม้ซื้อ โดยทยอยซื้อ และซื้อให้ราคาต้นทุนห่างกัน ดังนี้

1.การเล่นเก็งกำไร ในตลาดขาขึ้น ให้แบ่งเงินการเล่นเป็น 1-2 ไม้
2.การเล่นเก็งกำไร ในตลาดขาลง หรือ Sideway ให้เลือกเล่นเฉพาะหุ้นที่เป็นขาขึ้น และแบ่งเงินออกเป็น 3 ไม้เพื่อทยอยซื้อ
3.การเล่นหุ้นปันผล ให้ซื้อตอนราคาลงมาแรงๆ และ ทยอยซื้อ 1-3 ไม้
4.การเล่นรอบ ให้แบ่งเงินออกเป็น 5-10 ส่วน ทยอยซื้อ ให้มีราคาห่างกัน 5-10%

นายณัฐวัฒน์ระบุว่า การขายเมื่อราคาหุ้นไหลลง และกลับเข้าไปซื้อใหม่ในราคาที่ต่ำกว่า Short Against Port (SAP) และการขายเพื่อหยุดการขาดทุน Stop Loss-Cut Loss ก็เป็นกระบวนการที่ทำให้พอร์ตมีเงินสด

นายณัฐวัฒน์ได้แบ่งหุ้นเป็นกลุ่มๆตามขนาด เช่น หุ้นกลุ่ม A เป็นหุ้นขนาดใหญ่ อาทิ ADVANC, AOT, BBL, SCB, KBANK, PTT, PTTEP, PTTGC, TOP และ SCC

หุ้นกลุ่ม B เป็นหุ้นที่มีขนาดกลางถึงใหญ่ อาทิ BDMS, BH, AEONTS, BAY, KKP, KTB, MTC, SAWAD, TCAP, TISCO, TTB

หุ้นกลุ่ม C เป็นหุ้นที่มีขนาดรองลงมาจากกลุ่ม B เช่น DOHOME, GLOBAL, AP, PSH, ORI, QH, SPALI, BCP, ESSO, IRPC, PTG, SPRC โดยหุ้นในกลุ่ม D ก็จะมีขนาดรองลงมาจากกลุ่ม C อาทิ AAV, ACE, AIT, ASIAN, ASP, AU, PTG, RBF, SABINA, SABUY, SGP เป็นต้น

 

นายณัฐวัฒน์แนะนำว่า หุ้นในกลุ่ม A และB เป็นหุ้นที่มีความเสี่ยงน้อย หากเก็งกำไรผิดทาง ราคาหุ้นลดลง ให้แก้ปัญหาโดยวิธี SAP คือ Short Port ตัวเอง สำหรับหุ้นกลุ่ม C ลงไปรวมถึงกลุ่มหุ้นเก็งกำไร ถ้าเล่นผิดทางที่เราคิดไว้ให้ขายตัดขาดทุน Stop Loss/Cut Loss หุ้นกลุ่มเหล่านี้มีฤดูการเล่น เล่นตลอดเวลาไม่ได้ สำหรับกลุ่ม TFEX, Block-trade, DW, BITCOIN ต้องเล่นแบบมี Stop Loss ต้องทำให้ไว ถ้าไม่ทำ จะไม่มีเงินสดเหลือสู้ ในเกมต่อไป

หลักการสำคัญที่นายณัฐวัฒน์แนะนำในการเลือกหุ้นมาอยู่ในพอร์ต คือ ให้เลือกหุ้นโดยดูจากปัจจัยพื้นฐาน ส่วนการหาจังหวะซื้อหรือขายให้ดูจากการวิเคราะห์เชิงเทคนิค หรือจากกราฟ ถ้านักลงทุนไม่มีความมั่นใจในปัจจัยพื้นฐาน หรือไม่มีข้อมูล ต้องเล่นหุ้นด้วยกราฟ และแนะนำให้ติดตามข้อมูลข่าวสารการวิเคราะห์เชิงปัจจัยพื้นฐานจากสื่อต่างๆเรียนรู้ให้มากที่สุด

สำหรับนักเก็งกำไร นายณัฐวัฒน์ระบุว่า “นักเก็งกำไรต้องคิดแบบนี้กล้าซื้อแพง ไปขายแพงกว่า หาท่าไม้ตายของเราให้เจอ เล่นในจังหวะ ที่ตัวเองมีโอกาสชนะ การเล่นเก็งกำไรให้เลือกหุ้นที่มีแนวโน้มขาขึ้น ห้ามเก็งกำไรหุ้นที่มีแนวโน้มขาลงเด็ดขาด หรือถ้าจะเล่นเก็งกำไรขาลงให้เล่นแต่ Short sell TFEX, DW, SET50 เป็นต้น”

จากข้อมูลที่นายณัฐวัฒน์นำเสนอระบุว่า ข้อมูลปัจจัยพื้นฐานในหุ้นแต่ละตัว มีความลึกที่ไม่เท่ากัน และ ความเร็วในการเปลี่ยนแปลง หรือความผันผวนรวดเร็วใช้เวลาต่างกัน
หุ้นชุด A คนที่รู้ดีที่สุด คือ นักลงทุนต่างประเทศ จับความ ผันผวนได้
หุ้นชุด B C คนรู้ดีที่สุด คือ นักวิเคราะห์ และกองทุนในประเทศ จะรู้ลึก และ อ่านความเปลี่ยนแปลงของข้อมูลออก

หุ้นชุด DC คนที่รู้ดี คือ เจ้าของ ข้อมูลปัจจัยพื้นฐานเป็นเครื่องมือของรายใหญ่ ผ่านระบบสื่อสารมวลชน เพื่อทำให้กำลังของการเก็งกำไรรุนแรงขึ้น ข้อมูลมีทั้งจริง และ ไม่จริง ไม่มีใครรู้ดีเกินเจ้าของ ว่ากำลังทำอะไรอยู่

โดยสรุปจากเอกสารการบรรยาย ระบุว่า การเล่นเก็งกำไรหุ้นชุด A B ไม่ต้อง Stop Loss ใช้การ SAP แก้พอร์ต การเล่นเก็งกำไรหุ้นชุด C และ ชุดอื่น ๆ ต้อง Stop Loss
หุ้นชุด A B เก็งกำไรผิดทาง แก้ไขโดยการซื้อเฉลี่ยเส้น 50 200 วันได้
เมื่อราคาหุ้น หลุด เส้น 50 วัน หรือ 200 วัน สามารถทำ SAP
หุ้นชุด C D เล่นเก็งกำไรผิดทางต้องขายออกที่เส้น 50 วัน
เล่นเก็งกำไร หุ้นชุด D ต้องเฝ้า เลือกเล่นหุ้นที่เบรกแนวต้านในรอบ 1-2 ปี เท่านั้น
เล่นเก็งกำไร แบบ NET ต้องเลือกหุ้นที่ตลาดเล่นวันนั้นเท่านั้น
และปัญหาที่พบมากที่สุดของนักเก็งกำไรคือ เลือกหุ้นเอง และเลือกหุ้นขาลง