HoonSmart.com>>ทรีนีตี้ ชี้เฟดขึ้นดอกเบี้ยสกัดเงินเฟ้อ ยังคงเป็นปัจจัยเสี่ยงหลัก แนะรอซื้อที่แนวรับแรก 1570-1580 จุดและแนวรับสำคัญ 1540-1550 จุด จับตาการประชุมของพรรคคอมมิวนิสต์ของจีนเรื่องการต่ออายุตำแหน่งประธานาธิบดีสี จิ้นผิง แนะถือหุ้นกลุ่ม ธนาคาร การเงิน ประกัน ไอซีที และ มีเดีย แนะหุ้นเด่น KBANK, AEONTS, TIDLOR, TLI, ADVANC, DTAC, ONEE, PLANB
นายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด เปิดเผยถึงทิศทางการลงทุนเดือนตุลาคม 2565 ว่า คาดตลาดหุ้นไทยในเดือนตุลาคมแกว่งตัว Sideways ในกรอบ 1550-1650 จุด โดยในช่วงต้นเดือนอาจเผชิญอุปสรรคจากปัจจัยต่างประเทศเดิม นั่นก็คือการ Price in ของนักลงทุนต่อประเด็นการเข้มงวดนโยบายการเงินของ Fed ซึ่งต้องบอกว่าปัจจุบัน ยังมีนักลงทุนที่เหลืออีก 40% ในตลาดที่ยังไม่ได้มีการ Price in การขึ้นดอกเบี้ย 0.75% สำหรับการประชุมครั้งถัดไป ดังนั้น หากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯที่จะออกมาในเดือนตุลาคมบ่งชี้ไปในทิศทางเดียวกันถึงความร้อนแรงทางด้านเงินเฟ้อที่มาจากแรงผลักดันทางด้านอุปสงค์ มีความเป็นไปได้สูงที่ในช่วงแรกเงินดอลลาร์และ Bond yield สหรัฐฯจะปรับตัวขึ้นต่อ ซึ่งก็จะส่งผลกระทบทางอ้อมต่อตัวแปรสินทรัพย์เสี่ยงต่างๆ ได้
ส่วนเหตุการณ์สำคัญที่น่าติดตามในเดือนนี้ได้แก่ การประชุมของพรรคคอมมิวนิสต์ของจีนซึ่งจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 16 ต.ค. โดยคาดว่าจะมีการต่ออายุการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ออกไปอีกเป็นสมัยที่ 3 และต้องจับตาดูว่าจะมีการผ่อนปรนมาตรการ Zero-Covid หรือไม่ ซึ่งหากไม่เกิดขึ้น อาจเป็น Sentiment เชิงลบต่อตลาดหุ้นจีนได้เช่นกัน
สำหรับปัจจัยภายในแนะนำจับตาการประกาศผลการพิจารณาของตลท.ว่าจะมีการปรับเปลี่ยนเกณฑ์ Turnover ratio สำหรับการคัดเลือกหุ้นเข้าสู่ดัชนี SET50/SET100 จากเดิมที่ระดับ 5% ลงมาเหลือ 2% หรือไม่ แต่ไม่ว่าจะปรับหรือไม่ปรับ ประเมินว่าตัวหุ้น DELTA มีโอกาสสูงมากแล้วที่จะถูกคัดเลือกเข้าสู่ดัชนี SET50/SET100 ในรอบถัดไป
นายณัฐชาต กล่าวว่า ในเชิงกลยุทธ์ แนะนำใช้กรอบดัชนี SET ที่ 1570-1580 จุดเป็นแนวรับแรก ส่วนแนวรับสำคัญมองที่บริเวณ 1540-1550 จุด สำหรับนักลงทุนที่ทยอยเพิ่มน้ำหนักมาก่อนหน้านี้ที่บริเวณ 1600-1610 จุด แนะนำถือครองหุ้นไว้ก่อนได้ โดยเฉพาะกลุ่ม Domestic cyclical ที่มองว่ายังคงปลอดภัยมากกว่ากลุ่ม Global cyclical มอง Sector ในกลุ่มดังกล่าวที่น่าสนใจอยู่ 5 Sector ได้แก่ BANK, FIN, INSURE, ICT, MEDIA โดยมี Top pick ได้แก่ KBANK, AEONTS, TIDLOR, TLI, ADVANC, DTAC, ONEE, PLANB ผนวกกับหุ้นอีก 2 ตัวที่มีลุ้นเข้าสู่ดัชนี SET50 ในรอบถัดไปได้แก่ RATCH, COM7