HoonSmart.com>> ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดทรุดตัวลงต่อ 1% ดัชนีดาวโจนส์ปิดลบ 329 จุด ดัชนี S&P500 ลงไปแตะระดับต่ำสุดใหม่ของปีนี้ แรงเทขายต่อเนื่องนักลงทุนกังวลธนาคารกลางหลายประเทศปรับขึ้นดอกเบี้ยทำเศรษฐกิจถดถอย ราคาน้ำมันดิบลดลง 2% ฟาก “ตลาดหุ้นยุโรป” ส่วนใหญ่ปิดลบ ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) วันที่ 26 กันยายน 2565 ปิดที่ 29,260.81 จุด ร่วงลง 329.60 จุด หรือ 1.11% ปรับตัวลดลงต่อเนื่องจากสัปดาห์ก่อนและเข้าสู่ตลาดขาลง(bear market) อย่างเป็นทางการ และมีแนวโน้มที่จะผันผวนตลอดทั้งสัปดาห์จากความกังวลต่อการขึ้นดอกเบี้ยอย่างรุนแรงของธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) และความปั่นป่วนของตลาดปริวรรตเงินตรา
ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,655.04 จุด ลดลง 38.19 จุด, -1.03% ฟื้นตัวจากที่ร่วงไปแตะ 3,644.76 จุดใกล้ระดับต่ำสุดระหว่างวันของปี 2022 ที่ 3,636.87 จุด
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 10,802.92 จุด ลดลง 65.00 จุด, -0.60%
ตลาดเจอแรงขายต่อเนื่องจากการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางหลายประเทศจะทำให้เศรษฐกิจถดถอยจากการขึ้นดอกเบี้ย เพื่อต่อสู้กับเงินเฟ้อที่สูงในรอบหลายทศวรรษ
การขึ้นดอกเบี้ยที่ต่อเนื่องของเฟด รวมทั้งการลดภาษีขนานใหญ่ของอังกฤษในสัปดาห์ก่อนทำให้เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นอีก เงินยูโรแตะต่ำสุดเมื่อเทียบกับดอลลาร์นับตั้งแต่ปี 2002 ส่วนเงินปอนด์อ่อนค่ามาที่ระดับต่ำสุดเทียบเงินดอลลาร์ เงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น 1% เมื่อประเมินจากตะกร้าเงิน ทำให้กังวลต่อผลการดำเนินงานของบริษัทข้ามชาติของสหรัฐฯ และกระทบการค้าโลกที่ใช้เงินดอลลาร์เป็นหลักในการชำระเงิน
ไมเคิล วิลสัน หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนในหุ้นจาก Morgan Stanley ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ที่ผ่านมาการแข็งค่าของเงินดอลลาร์จะนำไปสู่วิกฤติเศรษฐกิจการเงิน
นักวิเคราะห์บางรายคาดการณ์ เศรษฐกิจถดถอย แม้ประเมินจากกรณีฐานของการปรับขึ้นดอกเบี้ยในเชิงรุกเพื่อรักษาเสถียรภาพราคา โดยเฉพาะหลังจากนายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟด เตือนอย่างต่อเนื่องถึง ความเจ็บปวด ทางเศรษฐกิจในสุนทรพจน์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
นางซูซาน คอลลินส์ ประธานเฟดสาขาบอสตันกล่าวว่า การชะลอการขึ้นดอกเบี้ยจะมีขึ้นได้ก็ต่อเมื่อเห็นชัดเจนว่าเงินเฟ้อชะลอตัวลง โดยจะต้องประเมินจากข้อมูลในระยะต่อไปทั้งเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพเพื่อเป็นข้อมูลในการกำหนดนโยบายในอนาคต ดังนั้นการขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่องเพื่อนำเงินเฟ้อเข้าสู่กรอบเป้าหมายก็มีความจำเป็น
นายราฟาเอล บอสติก ประธานเฟดสาขาแอตแลนตา ยังคงเชื่อว่า เขาและเจ้าหน้าที่เฟดคนอื่นจะสามารถดึงเงินเฟ้อลงได้โดยไม่กระทบต่อตลาดแรงงานมากนัก ในการให้สัมภาษณ์รายการ Face the Nation ของสถานีโทรทัศน์ CBS เมื่อวันอาทิตย์
“ ผมคิดว่าเราจะทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้ที่ เพื่อหลีกเลี่ยงความเจ็บปวดที่ลึก เรายังคงสร้างงานจำนวนมากในแต่ละเดือน ดังนั้นผมคิดว่าเศรษฐกิจสามารถรองรับการดำเนินการของเราได้บ้าง”
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรปรับตัวสูงขึ้น โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีเพิ่มขึ้นมาที่ 3.9% ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 2 ปีซึ่งอ่อนไหวต่อนโยบายดอกเบี้ยของเฟดทะลุระดับ4.3% สูงสุดนับตั้งแต่ปี 2007
หุ้นกลุ่มธนาคารลดลง โดยหุ้นโกลด์แมนแซคส์ลดลง 2.3% หุ้นเจพี มอร์แกน และหุ้นมอร์แกน สแตนเล่ย์ ต่างลดลงราว 2% หุ้นซิตี้ลดลง 3%
หุ้นกลุ่มพลังงานลดลง หลังราคาน้ำมัน WTI ลดลงกว่า 2% โดย หุ้นเชฟรอน ลดลง 2.6% หุ้นเอ็กซอน โมบิล ลดลง 2.1%
ตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ปรับตัวลดลงแรงท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน นำโดยกลุ่มสาธารณูปโภคที่ลดลง 2.3% แต่กลุ่มเดินทางบวกกว่า 2% นักลงทุนยังคงกังวลต่อแนวโน้มเศรษฐกิจที่แย่ลงของภูมิภาค และมีความกังวลมากขึ้นต่อแนวโน้มเศรษฐกิจโลก เพราะเงินเฟ้อยังอยู่ในระดับสูงและธนาคารกลางหลายประเทศยังคงเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยเพื่อคุมระดับราคา
เงินปอนด์อ่อนค่าไปที่ระดับต่ำสุด 1.0382 เมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์ในช่วงเช้าก่อนที่จะฟื้นตัวมาที่ 1.0666 หลังธนาคารกลางอังกฤษออกแถลงการณ์ ส่งสัญญานนโยบายการเงินเชิงรุกเพื่อคุมเงินฟ้อ โดยระบุว่า คณะกรรมการนโยบายการเงินจะไม่ลังเลที่จะปรับอัตราดอกเบี้ยมากเท่าที่จำเป็นเพื่อให้อัตราเงินเฟ้อกลับเป็นเป้าหมาย 2% อย่างยั่งยืนในระยะกลาง”
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 388.75 จุด ลดลง 1.65 จุด, -0.42%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,020.95 จุด เพิ่มขึ้น 2.35 จุด, +0.03%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,769.39 จุด ลดลง 14.02 จุด,-0.24%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 12,227.92 จุด ลดลง 56.27 จุด, -0.46%
ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายนลดลง 2.03 ดอลลาร์ หรือ 2.6% ปิดที่ 76.71 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 6 มกราคม 2022 ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนืองวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายนลดลง 2.09 ดอลลาร์ หรือ 2.4% ปิดที่ 84.06 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ต่ำสุดนับตั้งแต่ 14 มกราคม 2022