ราคาน้ำมันดิบสูงสุดในรอบ 4 ปี จากความกังวลต่อปริมาณน้ำมันดิบที่หายไปของอิหร่าน ซาอุดิอาระเบียและใน-นอกโอเปกช่วยผลิตไม่ทัน ส่วนแนวโน้มปีหน้ากังวลต่อปริมาณการผลิตน้ำมันดิบ Shale ของสหรัฐฯ ที่จะเพิ่มมากขึ้นในปี 2562 ห่วงล้นตลาด
บริษัทไทยออยล์ รายงานราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 4 ปี เนื่องจากการคว่ำบาตรอิหร่านของสหรัฐฯ ที่กำลังจะมาถึงในวันที่ 4 พ.ย. 2561ทำให้การส่งออกน้ำมันดิบของอิหร่านปรับตัวลดลง ถึงแม้ว่าผู้ผลิตน้ำมันดิบหลักรายอื่นๆ จะปรับเพิ่มกำลังการผลิตก็ตาม โดยซาอุดิอาระเบียรวมทั้งประเทศในกลุ่มและนอกกลุ่มโอเปกคาดว่าจะตกลงที่จะเพิ่มกำลังการผลิตขึ้น 500,000 บาร์เรลต่อวัน
อย่างไรก็ตาม ยังไม่สามารถชดเชยกำลังการผลิตของอิหร่านที่หายไปที่ 1.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน
นอกจากนี้ซาอุดิอาระเบียมีความกังวลต่อปริมาณการผลิตน้ำมันดิบ Shale ของสหรัฐฯ ที่จะเพิ่มมากขึ้นในปี 2562 ซึ่งจะก่อให้เกิดปริมาณน้ำมันดิบล้นตลาดอีกครั้ง โดยเฉพาะถ้าค่าเงินสหรัฐฯ แข็งค่าขึ้น ประกอบกับเศรษฐกิจของกลุ่มประเทศเกิดใหม่เกิดการชะลอตัวลง ทำให้ความต้องการใช้น้ำมันดิบปรับตัวลดลงตาม
ส่วนกำลังการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุดในเดือน ก.ค. ที่ผ่านมา โดยปรับขึ้น 269,000 บาร์เรลต่อวัน มาอยู่ที่ระดับ 10.964 ล้านบาร์เรลต่อวัน อย่างไรก็ตาม Baker Hughes รายงานปริมาณแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์ ณ วันที่ 28 ก.ค.ปรับตัวลดลง 3 แท่น
แนวโน้มในสัปดาห์นี้ ไอทยออยล์คาดราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 70 – 75 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 81 – 86 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล