KWM มั่นใจเทรดวันแรกเหนือจอง 1.30 บาท

KWM มั่นใจเทรดวันแรกไม่ทำให้นักลงทุนผิดหวัง ยืนเหนือจอง 1.30 บาท ชูพื้นฐานธุรกิจและอนาคตเติบโตแข็งแกร่ง อวดงบครึ่งปีกำไรโต 20% ยอดขายเพิ่ม เศรษฐกิจภาคการเกษตรขยายตัว

นายเอกพันธ์ วนโกสุม ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เค. ดับบลิว. เม็ททัล เวิร์ค (KWM) เปิดเผยถึงการซื้อขายหุ้น KWM วันแรกในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ในวันที่ 1 ต.ค.นี้ว่า มั่นใจหุ้น KWM ที่เข้าซื้อขายวันแรกจะได้รับการตอบรับจากนักลงทุนเป็นอย่างดี และน่าจะยืนเหนือราคาจองซื้อที่ 1.30 บาท/หุ้นได้ และจากการเข้ามาระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ในครั้งนี้ จะทำให้บริษัทฯ สามารถสร้างการเติบโตทางธุรกิจจากการมีเงินทุนหมุนเวียน เพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน

“คาดว่าหุ้น KWM ได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดีจากนักลงทุน และสามารถยืนเหนือราคาจองได้ เนื่องจากภาวะตลาดหุ้นในช่วงนี้มีความสดใสขึ้นหลังมีการประกาศความชัดเจนในการเลือกตั้งในปี 2562 และเราเชื่อมั่นในพื้นฐานของบริษัทฯ ทั้งผลประกอบการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และการวิจัยและพัฒนาคุณภาพของอุปกรณ์การเกษตรด้วยตนเอง โดยในปี 2561 แนวโน้มผลประกอบการของบริษัทฯ มีทิศทางในการเติบโตที่โดดเด่นกว่าปีที่ผ่านมา ประกอบกับปีนี้เรามีโปรดักส์ใหม่ คือ ใบผาลที่ผลิตจากเหล็กโบรอนซึ่งเป็นเหล็กรุ่นใหม่ โดยจะเข้ามาสนับสนุนยอดขายของบริษัทฯ เพิ่มขึ้น เบื้องต้นคาดว่ารายได้ปีนี้จะเติบโตประมาณ 20% ” นายเอกพันธ์ กล่าว

การเข้ามาระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ เป็นการเพิ่มโอกาสในการเติบโตให้บริษัทฯ ซึ่งบริษัทฯ มีนวัตกรรม, เทคโนโลยี และพื้นฐานเทคนิคด้านการเกษตร หากมีการพัฒนาที่ดี เชื่อมั่นว่าธุรกิจอุปกรณ์สำหรับใช้ในการเกษตรภายในประเทศยังโตได้อย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้บริษัทฯ จะสร้างการเติบโตในสิ่งที่มีความเชี่ยวชาญ โดยเฉพาะเทคโนโลยีด้านการเกษตรซึ่งเป็นพื้นฐานของประเทศไทย จึงคาดการณ์ว่าเกษตรกรจะใช้เครื่องจักรกลการเกษตรอย่างแพร่หลาย ซึ่งบริษัทก็จะเติบโตตามอุตสาหกรรมการเกษตร ทั้งนี้ มูลค่าตลาดของใบผาลอยู่ที่ประมาณ 1 ล้านใบในปี 2560 บริษัทฯ มีส่วนแบ่งทางการตลาด 20-30% และในปี 2561 บริษัทฯ ตั้งเป้าการผลิตใบผาลไว้ที่ประมาณ 2 แสนใบ

ด้านนายชนะชัย จุลจิราภรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ เออีซี ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุน บริษัท เค. ดับบลิว. เม็ททัล เวิร์ค จำกัด (มหาชน) หรือ KWM กล่าวว่า หุ้น เค.ดับบลิว.เม็ททัล เวิร์ค ได้รับความสนใจจองซื้อหุ้นอย่างมากในช่วงที่เปิดการจองซื้อหุ้นเมื่อวันที่ 19-21 ก.ย.2561 ที่ผ่านมา โดยบริษัทฯ เสนอขายหุ้นแก่ประชาชนทั่วไปครั้งแรกจำนวน 120 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) 0.50 บาทต่อหุ้น คิดเป็น 28.57% ของจำนวนหุ้นสำมัญที่ออกและเรียกชำระแล้ว ราคาเสนอขายหุ้นละ 1.30 บาท ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีมากจากนักลงทุน ประกอบกับปัจจัยพื้นฐานของบริษัทฯ มีความแข็งแกร่ง อนาคตมีการเติบโตต่อเนื่อง

“มั่นใจว่า KWM เข้าซื้อขายวันแรกราคาจะอยู่เหนือราคาจองที่ 1.30 บาท/หุ้นได้ เนื่องจากบริษัทฯมีผลประกอบการที่มีแนวโน้มเติบโตสูง และการระดมทุนครั้งนี้จะทำให้บริษัทฯ มีการเติบโตอย่างโดดเด่น อีกทั้งภาวะการลงทุนในตลาดหุ้นไทยดีขึ้นจากที่ดัชนีตลาดหุ้นไทยยืนเหนือ 1,700 จุดได้ และต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิส่งผลดีต่อหุ้น KWM ในการเข้าเทรดในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ จากจุดแข็งทางธุรกิจหลายประการ เช่น ศักยภาพของบริษัทฯ ในฐานะที่เป็นผู้ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายอุปกรณ์สำหรับใช้ในการเกษตร พร้อมทั้งมีทีมวิจัยและพัฒนาคุณภาพของอุปกรณ์การเกษตรโดยผู้เชี่ยวชาญ และไม่หยุดที่จะพัฒนาสินค้าและผลิตภัณฑ์ใหม่ออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง ประเทศไทยเป็นประเทศเกษตรกรรม ตลาดสินค้าเกษตรมีขนาดใหญ่มาก ทำให้บริษัทฯ มองเห็นโอกาสเติบโตสูงในอนาคต รวมทั้งบริษัทฯ มีฐานะการเงินที่แข็งแกร่ง จึงทำให้เชื่อมั่นว่า KWM จะสร้างผลตอบแทนที่น่าพอใจให้กับนักลงทุน” นายชนะชัย กล่าว

ด้านผลการดำเนินงานไตรมาส 2 สิ้นสุดวันที่ 30 มิ.ย.2561 ของ KMW กำไรสุทธิ 9.19 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.031 บาท ลดลง 24% จากงวดเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 12.19 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.042 บาท ส่วนงวด 6 เดือน ปี 2561 กำไรสุทธิ 16.69 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.056 บาท เพิ่มขึ้น 20.94% จากงวดเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 13.80 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.056 บาท

บริษัทฯ และบริษัทย่อยมีรายได้รวมในงวด 6 เดือน ปี 2561 เพิ่มขึ้น 47.74 ล้านบาท หรือ 33.81% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ส่วนใหญ่เกิดขึ้นจากการเพิ่มขึ้นของยอดขายผลิตภัณฑ์ประเภทใบผาล โดยเป็นผลมาจากปัจจัยสนับสนนุหลายประการทั้งด้านปัจจัยจากสภาพภูมิอากาศและปริมาณน้ำที่พบว่าปริมาณน้ำที่ใช้การได้ในอ่างเก็บน้ำที่สำคัญมีเพียงพอต่อการเพาะปลูก อีกทั้งสภาพอากาศในพื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศ
เอื้ออํานวยต่อการผลิต ทําให้การคาดคะเนสภาวะเศรษฐกิจการเกษตรเป็นไปในทิศทางที่ดีส่งผลให้ลูกค้าเพิ่มการสั่งซื้อเพื่อเตรียมผลิต

“ครึ่งปีแรกกำไรเพิ่มขึ้นมีสาเหตุสำคัญมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากการขายปรับตัวสูงขึ้นตามสภาวะเศรษฐกิจการเกษตรที่ขยายตัวไปในทิศทางที่ดีขึ้น”

ส่วนงวดปี 2560 มีกำไรสุทธิ 20.83 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 15.29 บาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปี 2559 มีกำไรสุทธิ 35.78 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 60.77 บาท

อ่านประกอบ

mai รับหุ้น KWM เข้าเทรด 1 ต.ค.