ดาวโจนส์ปิดลบ 173 จุด วิตกเฟดขึ้นดอกเบี้ย 0.75%

HoonSmart.com>> ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดลบ ดัชนีดาวโจนส์ร่วง 173 จุด ท่ามกลางซื้อขายผันผวน นักลงทุนกังวลข้อมูลเศรษฐกิจแข็งแกร่ง หนุนเฟดขึ้นดอกเบี้ย 0.75% ราคาน้ำมันดิบ WTI ปรัยเพิ่มขึ้น 1 เซนต์ ส่วน Brent ลดลง 2.91 ดอลลาร์ ด้านตลาดหุ้นยุโรปปิดบวก นำโดยกลุ่มค้าปลีก ขายกลุ่มน้ำมันและก๊าซ

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) วันที่ 6 กันยายน 2565 ปิดที่ 31,145.30 จุด ลดลง 173.14 จุด หรือ 0.55% ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวนนักลงทุนกังวลว่าข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งจะยิ่งผลักดันให้ธนาคารกลาง(เฟด)เดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยเชิงรุก

ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,908.19 จุด ลดลง 16.07 จุด, -0.41%

ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,544.91 จุด ลดลง 85.96 จุด, -0.74%

ขณะเดียวกันอัตราผลตอบแทนพันธบัตรปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีพุ่ง 0.162 จุดมาที่ 3.353% อยู่ช่วงหนึ่ง ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตร 2 ปีเพิ่มขึ้นไปที่ 3.515% สูงสุดของวัน และใกล้ระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2007 อีกครั้ง และส่งผลให้หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีซึ่งมีความอ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ย ปรับตัวลดลง โดยหุ้นเน็ตฟลิกซ์ ลดลง 3.4% หุ้นเมตา แพลตฟอร์มส์ ลดลง 1.1% หุ้นไมโครซอฟต์ ลดลง 1.1% หุ้นอัลฟาเบท ลดลง 0.96%

สถาบันจัดการด้านอุปทาน (ISM) รายงาน ดัชนีภาคบริการเดือนสิงหาคมเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 56.9 จาก 56.7 ในเดือนกรกฎาคม และจากที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงมาที่ 55.5 ซึ่งเป็นข้อมูลที่แข็งแกร่งเกินคาด หลังจากข้อมูลการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนสิงหาคมที่เพิ่มขึ้น

ทั้งสองข้อมูลเผยแพร่ก่อนการประชุมของเฟดวันที่ 20-21 เดือนกันยายน ทำให้คาดว่ามีความน่าจะเป็น 75%ที่เฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยอีกครั้ง 0.75% ซึ่งจะส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ 3.0%- 3.25%

อย่างไรก็ตามนักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจอื่นๆ ทั้ง รายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจของเฟด หรือ Beige Book และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ รวมทั้งการกล่าวสุนทรพจน์ของนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ในวันพฤหัสบดีนี้

ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวเพิ่มขึ้น นำโดยกลุ่มค้าปลีกที่เพิ่มขึ้น 1.7% แต่กลุ่มน้ำมันและก๊าซลดลง 2.5% นักลงทุนซื้อขายอย่างระมัดระวัง จากการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหภาพยุโรปจะปรับขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมนโยบายการเงินสัปดาห์นี้ซึ่งคาดว่า ECB จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75%

นักลงทุนยังคงจับตาสถานการณ์พลังงานในยุโรป หลังรัสเซียระงับการก๊าซผ่านท่อนอร์ด สตรีม 1 ไปยังยุโรป ขณะที่นายนิโคไล ชูลกินอฟ รัฐมนตรีพลังงานกล่าวว่า การกำหนดเพดานราคาน้ำมันรัสเซียจะทำให้รัสเซียส่งออกน้ำมันไปเอเชียมากขึ้น

ในเยอรมนี คำสั่งซื้อภาคอุตสาหกรรมเดือนกรกฎาคมลดลง 1.1% ต่ำกว่าการลดลง 0.5% ที่นักวิเคราะห์คาด และลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 6 หลังจากสงครามรัสเซียยูเครนกระทบต้นทุนการผลิต

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 414.38 จุด เพิ่มขึ้น 0.99 จุด, +0.24%

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,300.44 จุด เพิ่มขึ้น 13.01 จุด, +0.18%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,104.61 จุด เพิ่มขึ้น 11.39 จุด, +0.19%

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 12,871.44 จุด เพิ่มขึ้น 110.66 จุด, +0.87%

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนตุลาคม เพิ่มขึ้น 1 เซนต์ ปิดที่ 86.88 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนืองวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายน ลดลง 2.91 ดอลลาร์ หรือ 3% ปิดที่ 92.83ดอลลาร์ต่อบาร์เรล