“คิงส์ฟอร์ด” คาดแนวต้านดัชนี 1,630 จุด แนะ SUSCO-TACC

HoonSmart.com>> “บล.คิงส์ฟอร์ด” มองแนวโน้มดัชนีทรงตัว แนวรับ1,615 – 1,620 จุด แนวต้าน 1,630 จุด แนะซื้อเก็งกำไร PTT, PTTEP, BANPU ปัจจัยหนุนจากราคาน้ำมันและก๊าซปรับสูง กลุ่มได้ประโยชน์แนวโน้มดอกเบี้ยสูง แนะ KBANK, SCB, BBL, TIPH ด้านหุ้นเด่นวันนี้ชี้เป้า SUSCO-TACC

บริษัทหลักทรัพย์คิงส์ฟอร์ด ประเมินดัชนี SET ทรงตัวมีแนวรับดัชนีที่ 1,615 – 1,620 จุด แนวต้าน 1,630 จุด ระหว่างรอศาล รธน.วินิจฉัยวาระดำรงตำแหน่งนายก แนะนำซื้อเก็งกำไร PTT, PTTEP, BANPU ปัจจัยหนุนจากราคาน้ำมันและก๊าซปรับสูง KBANK, SCB, BBL, TIPH ได้ประโยชน์จากแนวโน้มดอกเบี้ยสูง

หุ้นแนะนำวันนี้ ได้แก่ SUSCO (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 4.50 บาท) บริษัทรายงานผลประกอบการ 2Q65 มีกำไรสุทธิ 158 ล้านบาท +156%YoY, +21%QoQ ดีกว่าที่ตลาดคาด ได้แรงหนุนจากสถานการณ์ Covid-19 ที่คลี่คลาย ส่งผลให้ปริมาณขายน้ำมันอากาศยานกลับมาขยายตัว ประกอบกับการเปิดสถานีบริการร่วมกับพันธมิตร ESSO ต่อเนื่อง ทำให้ปริมาณขายน้ำมันผ่านสถานีบริการเพิ่มขึ้น

ในขณะเดียวกันการทยอยปรับเพิ่มราคาดีเซล ส่งผลให้ค่าการตลาดต่อลิตรที่เพิ่มขึ้น แนวโน้ม 3Q65 อาจชะลอลงบ้าง QoQ ตามปัจจัยฤดูกาลที่เข้าหน้าฝน แต่รวม 2H65 คาดเติบโตต่อเนื่อง YoY จากการขยายสถานีบริการร่วมกับ ESSO ตามเป้าที่ 80 สถานี (ปัจจุบัน 50 สถานี) ส่วนค่าการตลาดคาดว่ายังอยู่ในระดับเดียวกับ 1H65 ซึ่งดีกว่าฐานของปีก่อน ตลาดคาด EPS Growth ปี 65 +52%YoY Valuation ยังไม่แพง PE ต่ำ 10-11x มี Dividend Yield ที่น่าสนใจ 6-7%

หุ้น TACC (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 9.25 บาท) กำไรสุทธิ 2Q65 อยู่ที่ 68 ล้านบาท (+27%YoY, +11%QoQ ) แนวโน้มการดำเนินงานในช่วงที่เหลือของปียังคงสดใส ได้แรงหนุนจากการผ่อนคลายม.ควบคุมต่างๆในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเราคาดว่าจะส่งผลให้ยอดขาย B2B ในส่วนของร้าน 7-11(All Cafe) ปรับตัวดีขึ้น ขณะที่ตัวธุรกิจของ TACC เองเรามองว่ามีความยืดหยุ่นไม่ว่าจะเป็นการปรับไซส์แก้วหรือการออกเครื่องดื่มใหม่เพื่อปรับ Margin

นอกจากนี้ ทาง TACC ยังมีโอกาสที่จะขยายไปยังลาว/กัมพูชาตาม7-11 และสาขาของ Lotus’s go fresh ผ่านทาง Jungle Cafe รวมถึง Lotus Hypermarket ในรูปแบบของ Food Court ทั้งนี้ ตลาดคาด EPS ปี 65 และ ปี 66 ขยายตัวต่อเนื่องจากปี 64 ที่ 0.35 บาท/หุ้น มาอยู่ที่ 0.39 บาท/หุ้น, และ 0.45 บาท/หุ้น ตามลำดับ