BBLAM หั่นค่าฟี 5 กองทุนหุ้นนอก 50% ชวนปรับพอร์ตสะสม Growth Stock

HoonSmart.com>> “บลจ.บัวหลวง” หั่นครึ่งค่าธรรมเนียมการขาย 5 กองทุนหุ้นต่างประเทศ ชวนนักลงทุนปรับพอร์ต หาประโยชน์จากเงินเฟ้อสูง และเริ่มสะสมโอกาสจาก Growth Stock

บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม บัวหลวง จำกัด หรือ BBLAM เปิดเผยว่า ในช่วงปลายไตรมาส 3 และต้นไตรมาส 4 ปีนี้ สถานการณ์ลงทุนกำลังปรับเปลี่ยนทิศทางไปจากต้นปีที่ผ่านมา โดยนักลงทุนเริ่มมองว่า เงินเฟ้อจะยังคงอยู่ในระดับสูงต่อเนื่อง ขณะที่ก็มองว่าเฟดจะยังคงปรับขึ้นดอกเบี้ยเพื่อดึงเงินเฟ้อให้มาอยู่ระดับที่เหมาะสม แต่การปรับขึ้นดอกเบี้ยอาจไม่ได้พุ่งแรงเหมือนในช่วงครึ่งปีแรก

เมื่อสถานการณ์ลงทุนเป็นเช่นนี้ BBLAM จึงมองว่า การปรับพอร์ตในช่วงนี้โดยยังให้ความสำคัญกับเงินเฟ้อ ควบคู่กับเริ่มสะสมโอกาสจาก Growth Stock จะเป็นสิ่งที่เหมาะสมและเป็นไปตามสถานการณ์กับโอกาสที่จะมาในอนาคต และเพื่อเป็นการสนับสนุนการปรับพอร์ตครั้งนี้ ในระหว่างวันที่ 1 กันยายน – 31 ตุลาคม 2565 BBLAM ทำการปรับลดอัตราค่าธรรมเนียมการขาย (Front-end Fee) กองทุนต่างประเทศ 5 กองทุน ลงเหลือ 50% จากอัตราที่เก็บจริง ได้แก่ กองทุนเปิดบัวหลวงหุ้นโกลบอล อินฟราสตรัคเจอร์ (B-GLOB-INFRA) กองทุนเปิดบัวหลวงโกลบอลอินโนเวชั่นและเทคโนโลยี (B-INNOTECH) กองทุนเปิดบัวหลวงยั่งยืน (B-SIP) กองทุนเปิดบัวหลวงหุ้นจีน (B-CHINE-EQ) และกองทุนเปิดบัวหลวงหุ้นเวียดนาม (B-VIETNAM)

5 กองทุนข้างต้น เป็นกองทุนที่ BBLAM เล็งเห็นแล้วว่า มีความเหมาะสมในการปรับพอร์ตในครั้งนี้ โดยเริ่มจาก B-GLOB-INFRA เป็นกองทุนที่เหมาะกับการหาโอกาสจากเงินเฟ้อ เพราะลงทุนในหุ้นโครงสร้างพื้นฐานที่ส่วนใหญ่โครงสร้างราคาปรับตามเงินเฟ้อ และที่สำคัญ กองทุนยังตั้งเป้าหมายลงทุนเพื่อเอาชนะเงินเฟ้อเฉลี่ยของประเทศในกลุ่ม G7 และยังบวกเพิ่มอีก 5.5% ดังนั้น (Benchmark ของกองทุน ได้แก่ ดัชนี OECD Major 7 CPI + 5.5%) กองนี้ จึงถือว่าเป็น inflationary hedge

สำหรับอีก 4 กองทุนถือเป็น Growth Stock ที่นักลงทุนสามารถเลือกทยอยสะสมได้ โดยแบ่งเป็น 2 ประเทศ และ 2 ธีมลงทุนในกลุ่มรายประเทศ BBLAM เลือกกองทุน B-CHINE-EQ และ B-VIETNAM เป็นกองทุนที่น่าสะสมเพื่อรอโอกาส โดยจีนเองกำลังได้ประโยชน์จากนโยบายภาครัฐที่หันกลับมาสนับสนุน โดยตั้งเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจและเวียดนาม ซึ่งปีนี้ได้ประโยชน์จากพลังการบริโภคในประเทศในการผลักดัน GDP จึงทำให้ได้รับผลกระทบจากภายนอกลดลง นอกจากนี้ยังได้เปรียบที่มูลค่าหุ้นยังมีราคาถูกเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศในกลุ่มอาเซียนด้วยกัน

2 ธีมลงทุนที่ BBLAM แนะนำ ได้แก่ B-INNOTECH ซึ่งมากับธีมเทคโนโลยี ซึ่งธีมเองก็ถือเป็นพื้นฐานของการพัฒนาในด้านต่างๆ จากวันนี้สู่อนาคตอยู่แล้ว แต่จังหวะลงทุนตอนนี้ยิ่งน่าสนใจ เพราะราคาหุ้นปรับตัวลงมามาก อีกทั้งจุดเด่นของกองทุน คือ ผู้จัดการกองทุนหลัก Fidelity Funds – Global Technology Fund เน้นลงทุนในหุ้นที่มีพื้นฐานดี มีโอกาสเติบโต ที่สำคัญราคาหุ้นต้องไม่สูงกว่าปัจจัยพื้นฐานมากเกินไป

อีกธีมลงทุน ได้แก่ ธีมดูแลโลก โดยเฉพาะการเติบโตของธุรกิจผลิตพลังงานทดแทน ซึ่ง BBLAM แนะนำกองทุน B-SIP ที่ผ่านมา ก็จะเห็นว่า การเพิ่มขึ้นของราคาพลังงานไม่ได้เพียงสร้างผลกำไรอย่างงามให้กับบริษัทผู้ผลิตพลังงานจากเชื้อเพลิงฟอสซิลเท่านั้น แต่บริษัทผู้ผลิตพลังงานทดแทนก็ได้ประโยชน์ตามมาด้วย