หุ้นปิดลบ 0.52 จุด กลุ่มพลังงาน-แบงก์กดดัน ต่างชาติซื้อ 3.1 พันลบ.

HoonSmart.com>>ตลาดหุ้นปิดลบ 0.52 จุด เจอแรงขายทำกำไรหุ้นในกลุ่มพลังงาน-ธนาคาร แต่ยังมีแรงซื้อเข้ามาที่กลุ่มเปิดเมือง-หุ้นพวก Defensive แสดงให้เห็นนักลงทุนระวังการลงทุนมากขึ้น พร้อมชี้เดือนก.ย.ดัชนีฯมีโอกาสเข้าใกล้ 1,600 แรงกดดันจากนอกประเทศ นักลงทุนต่างประเทศซื้อสุทธิ 3,188.72 ล้านบาท นักลงทุนในประเทศขายสุทธิ 1,185.29 ล้านบาท แนวโน้มวันพรุ่งนี้แกว่งแคบในกรอบ 1,630-1,650 จุด

ตลาดหลักทรัพย์วันที่ 31 ส.ค.2565 ดัชนีปิดที่ระดับ 1,638.93 จุด ลดลง 0.52 จุด หรือ -0.03% มูลค่าซื้อขาย 99,716.67 ล้านบาท โดยดัชนีแตะสูงสุด 1,644.09 จุด ต่ำสุด 1,630.01 จุด

นักลงทุนต่างประเทศซื้อสุทธิ 3,188.72 ล้านบาท และบัญชีหลักทรัพย์ซื้อสุทธิ 206.28 ล้านบาท ด้านนักลงทุนในประเทศขายสุทธิ 1,185.29 ล้านบาท และนักลงทุนสถาบันในประเทศขายสุทธิ 2,209.71 ล้านบาท

นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นวันนี้ชะลอตัวลงจากแรงขายทำกำไรหุ้นในกลุ่มพลังงาน และกลุ่มธนาคาร ส่งผลให้ตลาดดูด้อยกว่าตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่เคลื่อนไหวในแดนบวกเป็นส่วนใหญ่ ขณะที่ตลาดในยุโรปเทรดบ่ายนี้ติดลบเล็กน้อย แต่ทั้งนี้ตลาดก็ยังมีแรงซื้อเข้ามาที่หุ้นในกลุ่มเปิดเมือง และกลุ่ม Defensive ซึ่งแสดงให้เห็นว่านักลงทุนระวังการลงทุนมากขึ้น จึงมองไปที่หุ้นปลอดภัยมากกว่า

ทั้งนี้ ภาพตลาดในเดือนก.ย.มองว่าดัชนีฯมีโอกาสที่จะปรับตัวลงมาใกล้ระดับ 1,600 จุด โดยเผชิญแรงกดดันตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย.ที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดขนาดงบดุล 9.5 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ/เดือน จากก่อนหน้านี้ลดขนาดงบดุลแค่ 4.75 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ/เดือน ซึ่งคงจะต้องรอดูผลการลดขนาดงบดุลจะมีผลต่อตลาดอย่างไร

นอกจากนี้ ยังต้องติดตามวันที่ 5 ก.ย.นี้จะมีการประชุมกลุ่มโอเปกพลัส ซึ่งจับตาจะมีการลดกำลังการผลิตหรือไม่ และวันที่ 9 ก.ย.ติดตามการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) ตลาดคาดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% รวมถึงติดตามการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 21 ก.ย. ซึ่งตลาดคาดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ดังนั้นจีงคาดว่าหลังวันที่ 21 ก.ย.ไปแล้วตลาดน่าจะมีทิศทางที่ดีขึ้น

ส่วนแนวโน้มตลาดหุ้นในวันที่ 1 ก.ย.2565 ตลาดคงจะแกว่งแคบในกรอบ 1,630-1,650 จุด

5 อันดับหุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่
KBANK ปิดที่ 153.50 บาท ลดลง 2.00 บาท หรือ -1.29% มูลค่าซื้อขาย 12,711.85 ล้านบาท
BANPU ปิดที่ 14.50 บาท ลดลง 0.40 บาท หรือ -2.68% มูลค่าซื้อขาย 4,888.45 ล้านบาท
BH ปิดที่ 216.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท หรือ +0.47% มูลค่าซื้อขาย 4,108.46 ล้านบาท
PTTEP ปิดที่ 168.50 บาท ลดลง 3.50 บาท หรือ -2.03% มูลค่าซื้อขาย 3,337.67 ล้านบาท
BDMS ปิดที่ 29.25 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท หรือ +3.54% มูลค่าซื้อขาย 3,256.01 ล้านบาท