CH เคาะราคา IPO 2.34 บาท เปิดจองซื้อ 1-2 และ 5 ก.ย.นี้

HoonSmart.com>>”เจริญอุตสาหกรรม”สรุปราคาขาย  2.34 บาท/หุ้น คาดเข้าเทรด SET  12 ก.ย.นี้ ชู P/E ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม หนี้ต่ำกว่า 1 เท่า อัตรากำไรสุทธิสูง 4-5% บริษัทมั่งคงมีอายุกว่า 97 ปี ขาย 51 ประเทศ มีนวัตกรรมเก็บวัตถุดิบมะม่วง ผลิตได้ตลอดปี เพิ่มกำลังผลิต ตั้งโรงงานผลิตผลไม้อบแห้งที่กัมพูชา ภาษี 0% ส่งออกไปอียู เงินที่ระดมทุนได้นำไปลงทุนอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่ม 2-3% กำไรครึ่งปีนี้สูงกว่าทั้งปี 63-64

บริษัท เจริญอุตสาหกรรม (CH) ผู้นำธุรกิจผลิตและจำหน่ายผลไม้และอาหารแปรรูป มีพิธีลงนามสัญญาแต่งตั้ง บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯและผู้ร่วมจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย อีก 6 แห่ง ในการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนครั้งแรก (IPO) จำนวน 160 ล้านหุ้น มูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท ในราคาหุ้นละ 2.34 บาท รวมมูลค่าประมาณ 374 ล้านบาท กำหนดวันจองซื้อหุ้นวันที่ 1-2 และ 5 ก.ย. และคาดว่าหุ้นของบริษัทจะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ภายใต้กลุ่มธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม  ในวันที่ 12 ก.ย.นี้

นายสมศักดิ์ ศิริชัยนฤมิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ (APM) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน บริษัท เจริญอุตสาหกรรม(CH) กล่าวว่า บริษัทเจริญอุตสาหกรรม เป็นผู้นำธุรกิจผลิตและจำหน่ายผลไม้และอาหารแปรรูป ใน 3 กลุ่มผลิตภัณฑ์หลัก ได้แก่ ผลไม้อบแห้ง ปลากระป๋อง และขนมเพื่อสุขภาพ  เน้นส่งออกไปจำหน่ายต่างประเทศเป็นหลักรวมกว่า 50 ประเทศ ฐานลูกค้าเป็นกลุ่มบริษัทที่มีชื่อเสียง ด้วยทีมผู้บริหารที่มีประสบการณ์จากรุ่นสู่รุ่นมากว่า 97 ปี นับเป็นบริษัทที่มีศักยภาพการดำเนินธุรกิจที่แข็งแกร่ง และมีทิศทางการเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต จึงมั่นใจ CH จะเป็นหุ้นอีกหนึ่งตัวที่จะสร้างผลตอบแทนที่ดีให้แก่นักลงทุน

นายสมภพ กีระสุนทรพงษ์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า การเสนอขายที่หุ้นละ 2.34 บาท  คิดเป็น P/E  10 เท่าเศษ ต่ำกว่าP/E เฉลี่ยสูงกว่า 30 เท่าของกลุ่มธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม   นอกจากนี้นักลงทุนยังให้ความสนใจลงทุนหุ้นในกลุ่มธุรกิจอาหารฯสูงด้วย เชื่อว่าเมื่อหุ้น CH เข้าซื้อขายในตลาด ก็จะได้รับความนิยมมากเช่นเดียวกัน

ด้านนายศักดา ศรีแสงนาม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจริญอุตสาหกรรม  กล่าวว่า การเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย สนับสนุนให้ CH มีศักยภาพการเติบโตในอุตสาหกรรมผลิตและจำหน่ายผลไม้และอาหารแปรรูปอย่างมั่นคง รวมถึงการสร้างสรรค์และพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆโดยเฉพาะผลิตภัณฑ์กลุ่ม Healthy Food เพื่อตอบโจทย์เทรนด์รักสุขภาพ และเสริมสร้างศักยภาพให้บริษัทเป็นผู้นำด้าน INNOVATIVE HEALTHY FOOD ตามวิสัยทัศน์ของบริษัท

ปัจจุบันบริษัทมีการลงทุนสร้างโรงงานผลิตผลไม้อบแห้งที่กัมพูชา ขนาด 2,000 ตัน นอกจากมีพื้นที่เหมาะสมในการเพาะปลูกมะม่วง ซึ่งเป็นแหล่งวัตถุดิบหลักของบริษัทแล้ว กัมพูชายังได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี อัตรา 0% สำหรับการส่งออกไปขายยังสหภาพยุโรป(อียู) ด้วย ส่วนโรงงงานในประเทศไทย ซึ่งเป็นฐานผลิตหลัก ขนาด 10,000  ตัน ปัจจุบันยังใช้กำลังการผลิตไม่เต็ม 100% เพราะผลิตได้ตามฤดูกาลของมะม่วง อย่างไรก็ตามบริษัทมีนวัตกรรมสามารถเก็บและยืดอายุให้มะม่วงนำมาอบแห้งได้นานขึ้น

ส่วนเงินที่ได้จากการระดมทุนครั้งนี้ บริษัทจะนำเงินไปใช้ในการเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุนการผลิตสินค้าที่โรงงานท่าฉลอม จังหวัดสมุทรสาคร และปรับปรุงคลังสินค้าท่าทราย จังหวัดสมุทรสาคร เพื่อเพิ่มพื้นที่การจัดเก็บวัตถุดิบ สินค้ากึ่งสำเร็จรูป  และสินค้าสำเร็จรูป  รวมถึงเป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการเพื่อรองรับการเติบโตของกิจการในอนาคต

“เรามีอัตรากำไรสุทธิ 4-5% เชื่อว่าสูงกว่าหลายบริษัทในกลุ่มธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม และเงินที่ได้จากการขาย IPO นำไปขยายการลงทุน  จะช่วยเพิ่มอัตรากำไรขั้นต้นได้ประมาณ 2-3% จากปัจจุบันสินค้าบางตัวมีมาร์จิ้นถึง 20% ขณะเดียวกันบริษัทยังมีสัดส่วนหนี้สินต่อทุน(D/E) ต่ำกว่า 1 เท่า” นายศักดากล่าว

สำหรับผลประกอบการปี 2562-2564 บริษัทมีรายได้จากการขาย 1,656.76 ล้านบาท 1,634.47 ล้านบาท และ 1,442.28 ล้านบาท ตามลำดับ และกำไรสุทธิ 7.90 ล้านบาท 67.29 ล้านบาท และ 67.07 ล้านบาท ตามลำดับ ส่วนผลประกอบการงวด 6 เดือนปี 2565 บริษัทมีรายได้จากการขาย 910.04 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 67.34 ล้านบาท เติบโตขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ซึ่งบริษัทมีรายได้จากการขาย 726.20 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 28.26 ล้านบาท

“การเดินสายโรดโชว์นำเสนอข้อมูลให้กับนักลงทุนใน 14 จังหวัดที่ผ่านมา บริษัทได้รับการตอบรับอย่างดีจากนักลงทุน ที่ต่างเชื่อมั่นในความแข็งแกร่งของบริษัท และการเติบโตอย่างยั่งยืน บริษัทมีความยินดีและหวังว่านักลงทุนทุกท่านจะให้การตอบรับและมาร่วมเป็นผู้ถือหุ้น CH ด้วยกัน เพื่อสืบทอดและแผ่ขยายร่มเงาของต้นไม้ธุรกิจ CH ต่อไปอย่างยั่งยืน สมดั่งปณิธานมรดกอันล้ำค่าที่สืบต่อกันมา” นายศักดา กล่าว