HoonSmart.com>> ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดบวก ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวขึ้น 322 จุด ขานรับข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง จำนวนผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในสัปดาห์ที่แล้วลดลงต่ำกว่าคาด ด้านกระทรวงพาณิชย์รายงานประมาณการครั้งที่ 2 GDP ไตรมาส 2 หดตัว 0.6% ดีกว่าประมาณการครั้งแรกคาดหดตัว 0.9% ตลาดยังจับตาสุนทรพจน์ประธานเฟดในการประชุมประจำปีในวันนี้ ราคาน้ำมันดิบ WTI ลดลง 2.37 ดอลลาร์ ส่วน Brent หลุดต่ำกว่า 100 ดอลลาร์ ด้านตลาดหุ้นยุโรปปิดเพิ่มขึ้นเล็กน้อย
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) วันที่ 25 สิงหาคม 2565 ปิดที่ 33,291.78 จุด พุ่งขึ้น 322.55 จุด หรือ 0.98% จากการปรับขึ้นของกลุ่มเทคโนโลยีขณะที่นักลงทุนจับตาการกล่าวสุนทรพจน์ของ นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในการประชุมประจำปีในวันนี้
ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,199.12 จุด เพิ่มขึ้น 58.35 จุด, +1.41%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 12,639.27 จุด เพิ่มขึ้น 207.74 จุด, +1.67%
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวขึ้น โดยหุ้นเมตา แพลตฟอร์มส์ เพิ่มขึ้น 3.4% หุ้นแอปเปิล เพิ่มขึ้น 1.5% หุ้นไมโครซอฟต์เพิ่มขึ้น 1.1% หุ้นเน็ตฟลิกซ์ เพิ่มขึ้น 1.9% หุ้นอัลฟาเบท เพิ่มขึ้น 2.6%
หุ้น Nvidia ผู้ผลิตชิปรายใหญ่ของสหรัฐ เพิ่มขึ้น 4.0% เนื่องจากนักลงทุนยังคงมีมุมมองบวกต่อแนวโน้มผลประกอบการของบริษัท แม้ว่าอินวิเดียปรับลดคาดการณ์รายได้ในไตรมาส 3 ปีนี้ก็ตาม
นักลงทุนรอการกล่าวสุนทรพจน์ของ นายพาวเวลล์ ในวันนี้ (26 ส.ค.) เวลา 10.00 น.ตามเวลาสหรัฐฯเพื่อประเมินว่าในการประชุมนโยบายการเงินเดือนกันยายนเฟดจะขึ้นดอกเบี้ย 0.75% หรือ 0.50%และดูว่าเฟดจะลดดอกเบี้ยลงหรือไม่เมื่อผ่านวัฏจักรการปรับดอกเบี้ยขึ้นไปแล้ว
“ลิซ ยัง จาก SoFi กล่าวว่า ตลาดพยายามที่จะประเมินว่าการขึ้นดอกเบี้ยตอนนี้อยู่ในช่วงกลางวัฏจักรหรือปลายทาง และรอการสื่อสารจากสุนทรพจน์ของนายพาวเวลล์
เดวิด นอร์ริส จาก TwentyFour Asset Management ระบุในบทวิเคราะห์ว่า “ความคาดหวังในวงกว้างจากนายพาวเวลล์คือฉายภาพการต่อสู้กับภาวะเงินเฟ้อต่อไป ในขณะที่สกัดความคิดที่ว่าเฟดได้เปลี่ยนทิศทางของนโยบาย”
“ตลาดต่างคาดการณ์ว่าคำแถลงจากนายพาวเวลล์จะสะท้อนการดำเนินนโยบายการเงินที่เข้มงวดพร้อมกับชี้ว่าอัตราดอกเบี้ยที่ ‘สูงขึ้นและยาวนานขึ้น’
โทนี่ เครสเซนซีจาก Pimco กล่าวว่า เฟดต้องรักษาระดับการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเชิงรุกแม้อัตราเงินเฟ้อจะเริ่มลดลงก็ตาม
เฟดได้ขึ้นอัตราดอกเบี้ยมาตรฐานเป็น 2.5% แต่ก็ยังต่ำกว่าอัตราเงินเฟ้อรายปี ซึ่งเฟดจะต้องทำให้อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงเป็นบวกเพื่อให้แน่ใจว่าการคาดการณ์เงินเฟ้อจะลดลง
“การขึ้นดอกเบี้ย 0.25% ไม่น่าจะได้ผล เพราะจะใช้เวลาหลายไตรมาสหรือมากกว่านั้น”
บรรยากาศการซื้อขายได้รับแรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง โดยกระทรวงแรงงานรายงานจำนวนผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในสัปดาห์ที่แล้วลดลง 2,000 ราย สู่ระดับ 243,000 ราย และต่ำกว่า 255,000 ราย ที่นักวิเคราะห์คาดนอกจากนี้ตัวเลขในสัปดาห์ก่อนหน้าได้ปรับลดลงจาก 250,000 รายเป็น 245,000 ราย
หุ้นกลุ่มเดินทางและเรือสำราญปรับตัวขึ้น โดยหุ้นโรยัลแคริบเบียน หุ้นคาร์นิวาล หุ้นนอร์วีเจียนครูซไลน์ต่างเพิ่มขึ้นกว่า 4% หุ้นยูไนเต็ดแอร์ไลน์ 1.7% เพิ่มขึ้น หุ้นเดลต้าแอร์ไลน์บวก 1.4%
ด้านกระทรวงพาณิชย์รายงานประมาณการครั้งที่ 2 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 2 ว่า หดตัวลง 0.6% ซึ่งดีกว่าการหดตัว 0.9% ในประมาณการครั้งแรก
ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย นำโดยกลุ่มน้ำมันและก๊าซที่เพิ่มขึ้น 1.1% นักลงทุนจับตาการประชุมประจำปีของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ท่ามกลางการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจ
สถาบัน Ifo ของเยอรมนีรายงานผลสำรวจความเชื่อมั่นธุรกิจเดือนสิงหาคมลดลงมาที่ 88.5 จุด จาก 88.7 เดือนกรกฎาคม
นอกจากนี้ GDP ไตรมาสสองของเยอรมนีปรับเพิ่มขึ้นเป็น 1.7% เมื่อเทียบรายปีจาก 1.4% ตัวเลขเบื้องต้นและเพิ่มขึ้น 0.1% จากไตรมาสก่อนหน้า
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 433.36 จุด เพิ่มขึ้น 1.31 จุด, +0.30%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,479.74 จุด เพิ่มขึ้น 8.23 จุด, +0.11%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,381.56 จุด ลดลง 5.20 จุด, -0.08%,
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 13,271.96 จุด เพิ่มขึ้น 51.90 จุด, +0.39%
ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนตุลาคม ลดลง 2.37 ดอลลาร์ หรือ 2.5% ปิดที่ 92.52 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 25 มกราคม ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนืองวดส่งมอบเดือนตุลาคม ลดลง 1.88 ดอลลาร์ หรือ 1.9% ปิดที่ 99.34 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล