HoonSmart.com>>ตลาดหุ้นปิดลบ 2.02 จุด แกว่งแคบหลังปัจจัยการเมืองรบกวนจากศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้”ประยุทธ์ จันทร์โอชา”หยุดปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี มองการเมืองยังไม่เกิดสุญญากาศ รัฐบาลยังปฏิบัติงานต่อไปได้ รอบนี้มองกรอบดัชนีฯช่วง 1 เดือนก่อนรู้ผลศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ดัชนีฯแย่สุดจะอยู่ที่ 1,580 และดีสุดดัชนีฯจะอยู่ที่ 1,680 นักลงทุนต่างประเทศซื้อสุทธิ 1,708.74 ล้านบาท ด้านนักลงทุนในประเทศขายสุทธิ 1,808.51 ล้านบาท ส่วนแนวโน้มวันพรุ่งนี้มีโอกาสขึ้นได้เล็กน้อย แนวรับ 1,625 แนวต้าน 1,640-1,650 จุด
ตลาดหลักทรัพย์วันที่ 24 ส.ค.2565 ดัชนีปิดที่ระดับ 1,631.55 จุด ลดลง 2.02 จุด หรือ -0.12% มูลค่าซื้อขาย 82,621.35 ล้านบาท โดยดัชนีแตะสูงสุด 1,638.75 จุด ต่ำสุด 1,624.60 จุด
นักลงทุนต่างประเทศซื้อสุทธิ 1,708.74 ล้านบาท และบัญชีหลักทรัพย์ซื้อสุทธิ 187.64 ล้านบาท ด้านนักลงทุนในประเทศขายสุทธิ 1,808.51 ล้านบาท และนักลงทุนสถาบันในประเทศขายสุทธิ 87.87 ล้านบาท
นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ นักกลยุทธ์การลงทุน บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นแกว่งในกรอบไม่กว้างทั้งในแดนบวก-ลบ หลังจากวานนี้ได้ปรับตัวขึ้นสวนทางตลาดต่างประเทศไปก่อน สำหรับปัจจัยการเมืองในประเทศที่รบกวนอยู่ แม้ว่าศาลรัฐธรรมนูญจะสั่งให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หยุดปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี แต่การประชุมคณะรัฐมนตรียังเดินหน้าต่อไปได้ เพียงแต่ให้พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีลำดับที่ 1 ขึ้นมารักษาการแทน ซึ่งคงจะต้องรอขั้นตอน 1 เดือนจากนี้ ศาลรัฐธรรมนูญจะฟันธงปม 8 ปีการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของพล.อ.ประยุทธ์ จะออกมาแบบไหน แต่ก็มองการเมืองยังไม่เกิดสูญญากาศ จึงมองเป็นกลาง จากที่การปฏิบัติงานของรัฐบาลยังทำได้ต่อ แค่เปลี่ยนผู้นำเท่านั้น
ท้ายสุดตลาดคงจะมอนิเตอร์การเมืองไปตลอด 1 เดือน และตลาดยังเฝ้ารอดูการประชุมประจำปีที่แจ็คสันโฮล และเศรษฐกิจในประเทศที่จะฟื้นตัวได้แค่ไหน ซึ่งงานไทยแลนด์โฟกัสถือว่าดูดีจากที่บริษัทออกมาให้ข้อมูล และวันนี้จะต้องจับตาการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติจะยังซื้อสุทธิอยู่หรือไม่ ถ้าต่างชาติยังซื้อสุทธิอยู่ก็แสดงว่าโมเมนตัมตลาดยังดี และการเมืองรอบนี้ต่างชาติอาจจะชอบก็ได้ ทั้งนี้รอบนี้มองกรอบดัชนีฯในช่วง 1 เดือนก่อนรู้ผลศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยปม 8 ปีนายกรัฐมนตรี แย่สุดดัชนีฯจะอยู่ที่ 1,580 จุด และดีสุดดัชนีฯจะอยู่ที่ 1,680 จุด
“ปัจจัยการเมืองยังมองเป็นกลาง เพราะยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงในขณะนี้ และช่วงสั้นมองยังไม่น่าจะเห็นการประกาศยุบสภา เพราะยังไม่มีเหตุผลที่จะรีบยุบสภา คงต้องรอดูปลายปีอาจมีความเหมาะสมกว่า”
ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ โดยตลาดในแถบเอเชียเหนือจะติดลบ ขณะที่ตลาดในกลุ่ม TIP จะบวกกัน ส่วนตลาดในยุโรปเทรดบ่ายนี้เปิดในแดนลบแต่ก็มีความพยายามที่จะดึงกลับขึ้นมา ซึ่งต่างแกว่งรอดูการประชุมประจำปีที่แจ็คสันโฮล โดยถ้อยแถลงประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะมีในคืนวันที่ 26 ส.ค. เป็นปัจจัยสำคัญก่อนการประชุมเฟดในเดือนก.ย. ซึ่งรอดูประธานเฟดจะส่งสัญญาณอะไรออกมา
ส่วนแนวโน้มตลาดหุ้นในวันที่ 25 ส.ค.2565 ตลาดยังมีโอกาสปรับขึ้นได้เล็กน้อย โดยมีแนวรับ 1,625 จุด แนวต้าน 1,640-1,650 จุด
5 อันดับหุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่
PTTEP ปิดที่ 168.00 บาท เพิ่มขึ้น 7.00 บาท หรือ +4.35% มูลค่าซื้อขาย 6,071.94 ล้านบาท
PRINC ปิดที่ 7.65 บาท ลดลง 1.85 บาท หรือ -19.47% มูลค่าซื้อขาย 5,463.96 ล้านบาท
BANPU ปิดที่ 14.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง มูลค่าซื้อขาย 4,630.73 ล้านบาท
PTT ปิดที่ 37.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท หรือ +0.67% มูลค่าซื้อขาย 3,665.29 ล้านบาท
KBANK ปิดที่ 156.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท หรือ +0.65% มูลค่าซื้อขาย 3,306.27 ล้านบาท