HoonSmart.com>>ตลาดหุ้นเช้านี้ลบ 0.15 จุด แกว่งแคบช่วงรอดูถ้อยแถลงประธานเฟดในการประชุมประจำปีที่แจ็คสันโฮล ขณะที่ปัจจัยการเมืองรบกวนตลาด ขณะที่บอนด์ยีลสหรัฐยังสูงกว่า 3% และเงินดอลลาร์สหรัฐคงแข็งค่า ส่วนในประเทศรอดูการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญเรื่องสถานะของนายกรัฐมนตรี
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์วันที่ 24 ส.ค.2565 ณ เวลา 9.57 น. อยู่ที่ระดับ 1,633.42 จุด ลดลง 0.15 จุด หรือ -0.01% มูลค่าซื้อขาย 1,818.85 ล้านบาท
บล.ดาโอ (ประเทศไทย) ประเมินดัชนีฯ แกว่งตัวในกรอบแคบ ตลาดหุ้นไทยได้อานิสงค์จากตัวแปรต่างประเทศ แต่มีปัจจัยการเมืองเข้ามารบกวนตลาด โดยตลาดต่างประเทศส่วนใหญ่นักลงทุนรอถ้อยแถลงของประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่จะมีการพูดถึงแนวโน้มการขึ้นดอกเบี้ยที่รุนแรงหรือไม่ ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตร(Bond Yield)อายุ 10 ปี สหรัฐฯ (ล่าสุด 3.01%) และเงินดอลลาร์สหรัฐ (108.63 ดอลลาร์) ยังสูงอยู่
ประเด็นเรื่องพลังงานของฝั่งยุโรปยังไม่ได้หมดไป แต่ตลาดรับรู้ไปแล้ว จึงไม่ได้เป็นประเด็นใหญ่ ๆ ในวันนี้ แต่มองว่ากลุ่มพลังงาน ยังดีอยู่ บวกต่อตลาดหุ้นไทย
สภาฯ เห็นชอบ ผ่านร่าง พ.ร.บ. งบประมาณปี 66 ในวาระที่ 2 แล้ว ซึ่งจะดำเนินต่อตามกระบวนการขั้นต่อไป ในส่วนกรณีนายกฯ เป็นเรื่องแต่คาดเดายาก แต่วันนี้จะมีการประท้วงทางการเมืองเพื่อขับไล่นายกฯ เรามองเป็นตัวแปรที่อาจจะมารบกวนตลาดหุ้นไทย
ด้านกลยุทธ์มองตลาดหุ้นทั่วโลก รอดูการกล่าวสุนทรพจน์ของประธาน เฟด วันที่ 26 ส.ค. และในน้ำหนักไปในทางลบว่าจะขึ้นดอกเบี้ยมากกว่าคาดที่ 0.50% และรอดูการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ในเรื่องสถานะของนายกรัฐมนตรีของไทย แต่นำหุ้นที่มีปัจจัยเฉพาะตัวเข้ามาในพอร์ต เพื่อเก็งกำไรช่วงสั้นๆ (ลดการถือเงินสดเหลือ 10%)
ราคาสินค้าพลังงาน และ Gas สูงขึ้น โดยเฉพาะยุโรป นักลงทุนควรเพิ่มความระมัดระวังในหุ้นที่มีฐานรายได้ในยุโรป หุ้นกลุ่มชิ้นส่วนยานยนต์ และหุ้นโรงไฟฟ้าของไทย แต่สถานการณ์นี้ จะเป็นบวกต่อ PTTEP, BANPU, LANNA
5 อันดับหุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่
PTTEP อยู่ที่ 164.50 บาท เพิ่มขึ้น 3.50 บาท หรือ +2.17% มูลค่าซื้อขาย 353.30 ล้านบาท
BANPU อยู่ที่ 14.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง มูลค่าซื้อขาย 165.05 ล้านบาท
ADVANC อยู่ที่ 193.00 บาท ลดลง 0.50 บาท หรือ -0.26% มูลค่าซื้อขาย 92.36 ล้านบาท
SCC อยู่ที่ 361.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง มูลค่าซื้อขาย 87.27 ล้านบาท
SCB อยู่ที่ 103.00 บาท ลดลง 0.50 บาท หรือ -1.44% มูลค่าซื้อขาย 76.38 ล้านบาท