ดาวโจนส์ปิดพุ่ง 239 จุด ผลประกอบการกลุ่มค้าปลีกหนุน

HoonSmart.com>> ดัชนีดาวโจนส์ปิดบวก 239 จุด ปรับขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่ 5 แรงหนุนผลประกอบการกลุ่มค้าปลีก หลัง “วอลมาร์ทและโฮมดีโป้” ผลงานดีสะท้อนการใช้จ่ายผู้บริโภคยังแข็งแกร่ง พยุงเศรษฐกิจไม่ให้ตกต่ำ ราคาน้ำมันดิบ WTI ลดลง 2.88 ดอลลาร์ ด้านตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวขึ้นเล็กน้อย

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) วันที่ 16 สิงหาคม 2565 ปิดที่ 34,152.01 จุด เพิ่มขึ้น 239.57 จุด หรือ 0.71% ปรับขึ้นติดต่อกันวันที่ 5 จากผลประกอบการของวอลมาร์ทและโฮมดีโป้ที่สะท้อนว่าการใช้จ่ายของผู้บริโภคยังแข็งแกร่งพอที่จะพยุงเศรษฐกิจไม่ให้ตกต่ำ

ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,305.20 จุด เพิ่มขึ้น 8.06 จุด, +0.19%

ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,102.55 จุด ลดลง 25.50 จุด, -0.19%

ในช่วงเปิดการซื้อขายตลาดปรับตัวลดลงก่อนที่จะบวกขึ้นไปถึง 369 จุดซึ่งเป็นระดับสูงสุดของวันหลังการรายงานผลประกอบการที่ดีกว่าคาดของวอล์มาร์ทและโฮมดีโป้ รวมไปถึงการปรับขึ้นของหุ้นค้าปลีกอื่น ทั้งทาร์เก็ต เบสท์บาย และบาธแอนด์บอดี้ที่ต่างปรับขึ้น 4% ที่จะแจ้งผลการดำเนินงานในวันพุธ

หุ้นวอลมาร์ท ปิดบวก 5.1% หุ้นโฮม ดีโปเพิ่มขึ้น 4.1%

ปีเตอร์ บุควาร์ ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุนจาก Bleakley Advisory Group กล่าวว่า ราคาน้ำมันที่ตกลงมาที่ระดับ 87 ดอลลาร์เป็นอีกหนึ่งปัจจัยหนุนผลการดำเนินงานกลุ่มค้าปลีก

นักลงทุนมีมุมมองทางบวกว่า ธนาคารกลาง(เฟด)จะดูแลเศรษฐกิจให้เศรษฐกิจ

soft landing จากการดำเนินนโยบายการเงินตึงตัวและขึ้นดอกเบี้ยเพื่อคุมเงินเฟ้อได้

อย่างไรก็ตามนักลงทุนจับตารายงานการประชุมของเฟดวันที่ 26-27 กรกฎาคม และมองว่า ขณะนี้มีโอกาส 60% ที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมเดือนกันยายน ส่วนโอกาสที่จะขึ้นดอกเบี้ย 0.75% นั้นอยู่ที่ 40%

กระทรวงพาณิชย์รายงานว่า การเริ่มต้นสร้างบ้านเดือนกรกฎาคมลดลง 9.6% สู่ระดับ 1.446 ล้านยูนิต ต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2021 และต่ำกว่าการเพิ่มขึ้น 2.1% ที่นักวิเคราะห์คาด

ด้านเฟดรายงานการผลิตภาคอุตสาหกรรมโดยรวมเดือนกรกฎาคมเพิ่มขึ้น 0.6% จากที่ทรงตัวในเดือนมิถุนายน

ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวขึ้นเล็กน้อย แต่ก็ปรับขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่ 5 นำโดยกลุ่มทรัพยากรพื้นฐานที่เพิ่มขึ้น 3.4% ท่ามกลางความกังวลต่อแนวโน้มที่จะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย

หุ้น BHP ธุรกิจเหมืองแร่เพิ่มขึ้น 3.9% หลังรายงานผลกำไรทั้งปีสิ้นสุด เดือนมิถุนายนที่ผ่านมาเพิ่มขึ้น 26% สูงสุดในรอบ 11 ปี

ในอังกฤษค่าจ้างที่แท้จริงหลังหักเงินเฟ้อในไตรมาสที่แล้วลดลง 3% เมื่อเทียบรายปี ขณะที่ค่าแรงเฉลี่ยซึ่งไม่รวมโบนัสช่วงเดือนเมษายนถึงมิถุนายนเพิ่มขึ้น 4.7% สะท้อนว่าค่าครองชีพที่สูงขึ้นมีผลต่อค่าจ้าง

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 443.07 จุด เพิ่มขึ้น 0.72 จุด, +0.16%

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,536.06 จุด เพิ่มขึ้น 26.91 จุด, +0.36%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ ที่ 6,592.58 จุด เพิ่มขึ้น 22.63 จุด, +0.34%,

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 13,910.12 จุด เพิ่มขึ้น 93.51 จุด, +0.68

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนกันยายนลดลง 2.88 ดอลลาร์ หรือ 3.2% ปิดที่ 86.53 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 25 มกราคม ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนืองวดส่งมอบเดือนตุลาคมลดลง 2.76 ดอลลาร์ หรือ 2.9% ปิดที่ 92.34ดอลลาร์ต่อบาร์เรล