PTTEP-PTT น่าสนใจ น้ำมันพุ่ง-ชนะบงกช-กำไรโต

ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ทะลุ 80 ดอลลาร์ หลายสำนักคาดทะยานขึ้นถึง 90 ดอลลาร์ปลายปีนี้ ยิ่งทำให้หุ้น PTTEP และ PTT น่าสนใจมากขึ้น นอกจาก ปตท.สผ.จะมีโอกาสชนะการประมูลแหล่งบงกช แนวโน้มกำไรจะเติบโตมากขึ้น บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง แนะให้ซื้อเก็งกำไร PTTEP ราคาเป้าหมาย 160 บาทในปี 2562

บริษัทไทยออยล์รายงานว่า ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ปรับขึ้นไปยืนอยู่เหนือ 80 ดอลลาร์/บาร์เรลในวันจันทร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดตั้งแต่เดือน พ.ย. 2014

ขณะที่เทรดเดอร์บางคนคาดถึงโอกาสความเป็นไปได้ที่ราคาอาจวิ่งขึ้นไปยืนอยู่เหนือระดับ 100 ดอลลาร์/บาร์เรล

ธนาคารเจพี มอร์แกน รายงานภาวะแนวโน้มตลาดฉบับล่าสุดว่า โอกาสมีมากที่ราคาน้ำมันจะทะยานขึ้นไปถึง 90 ดอลลาร์/บาร์เรลในช่วงเดือนต่อๆไปข้างหน้า จากการคว่ำบาตรการของสหรัฐต่อการส่งออกน้ำมันของอิหร่านที่จะมีผลในเดือนพ.ย.2561

ส่วนแนวโน้มราคาเบรนท์และ WTI จะเคลื่อนไหวเฉลี่ยอยู่ที่ 85 และ 76 ดอลลาร์/บาร์เรล ตามลำดับ ในช่วง 6 เดือนข้างหน้า

ขณะที่ Trafigura และ Mercuria คาดราคาน้ำมันดิบเบรนท์มีแนวโน้มแตะระดับ 90 ดอลลาร์ในช่วงปลายเดือน ธ.ค. นี้ และทะลุ 100 ดอลลาร์ในช่วงต้นปี 2562 จากอุปทานน้ำมันดิบที่ตึงตัวขึ้นภายหลังมาตรการคว่ำบาตรอิหร่านมีผลบังคับใช้

บริษัทหลักทรัพย์(บล.)กสิกรไทย ยังคงคำแนะนำให้ซื้อบริษัทปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม( PTTEP) แม้ราคาปัจจุบันจะไม่เหลือโอกาสขึ้นจากมูลค่าพื้นฐานที่ 153 บาทมากนัก แต่ยังไม่ได้รวมผลประโยชน์ในกรณีที่ชนะการประมูลแหล่งบงกชได้

บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง(ประเทศไทย) แนะนำให้ซื้อเก็งกำไร PTTEP ราคาเป้าหมาย 160 บาทในปี 2562 ทั้งนี้ยังไม่รวมมูลค่าเพิ่ม 12 บาทต่อหุ้นสำหรับการถือสัดส่วน 66.67% ในโครงการบงกช

สาเหตุที่ PTTEP ยังน่าซื้อเก็งกำไร เนื่องจากได้รับแรงส่งจากผลประกอบการครึ่งปีหลังโดดเด่น และเพิ่มขึ้นต่อในปี 2562 จากราคาน้ำมันที่ปรับตัวเข้าสู่ฐานใหม่ในช่วง 70 ดอลลาร์ และการประมูลต่ออายุโครงการเอราวัณ-บงกชช่วงปลายปี

บล.เมย์แบงก์ฯ คาด PTTEP จะมีกำไรจากการดำเนินงานไตรมาสที่ 3 เท่ากับ 11,566 ล้านบาท เพิ่มขึ้นโดดเด่น 56.4% จากระยะเดียวกันปีก่อน และเติบโต 7.5% จากไตรมาส 2 โดยปริมาณขาย ที่คาดปรับตัวขึ้น และราคาขายเฉลี่ยที่เพิ่มขึ้น 38.8% จากระยะเดียวกันปีก่อนด้วย

ขณะที่รายจ่ายพิเศษที่ลดลง ประเมินกำไรสุทธิเท่ากับ 11,207 ล้านบาท พลิกจากขาดทุนสุทธิ 8,682 ล้านบาท ในไตรมาส 3/2560ที่มีรายการด้อยค่าโครงการ MOSP ในแคนาดา จำนวน 558 ล้านเหรียญ (-18,505 ล้านบาท) และเพิ่มขึ้น 212% จากไตรมาสที่ 2 เนื่องจากรายจ่ายพิเศษที่เกี่ยวของกับ FX ที่พลิกจาก -223 ล้านเหรียญ ในไตรมาส 2 เป็น +63 ล้านเหรียญ ตามทิศทางค่าเงินบาทที่เพิ่มขึ้น ช่วยชดเชยผลขาดทุนจากการขายสัดส่วนในโครงการมอนทาราที่ -73 ล้านเหรียญ