บลจ.เอ็มเอฟซี มองยิลด์บอนด์สหรัฐพุ่งแตะ 3% ป่วนตลาดหุ้นทั่่วโลก เชื่อไม่ดึงฟันด์โฟล์วไหลออกหุ้นไทยรุนแรง เหตุต่างชาติขายออกไปมากแล้ว จับตาปีหน้าบอนด์ยิลด์ทะลุ 3.5% หวั่นเงินไหลเข้าตราสารหนี้
นายชาคริต พืชพันธ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) เอ็มเอฟซี กล่าวว่า การปรับขึ้นอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ (บอนด์ยิลด์) อายุ 10 ปี ไปแตะระดับ 3% สะท้อนความกังวลแนวโน้มดอกเบี้ยขาขึ้นที่อาจเร็วกว่าคาดจากอัตราเงินเฟ้อที่เร่งสูงขึ้น ส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นทั่วโลก แต่ในระยะสั้นนักลงทุนอาจยังไม่จำเป็นต้องปรับพอร์ตการลงทุน เนื่องจากมองว่าปี 2561 นี้บอนด์ยิลด์สหรัฐน่าจะทรงๆ แถว 3% ยังไม่น่าขึ้นเกิน 3.5% แต่ในปี 2562 มีโอกาสได้เห็นและจะทำให้ตลาดหุ้นน่าสนใจน้อยลง
“ถ้าบอนด์ยิลด์สหรัฐอายุ 10 ปีขยับขึ้นเกิน 3.5% อาจจะต้องระวัง เพราะเงินอาจโยกไปลงทุนในตลาดบอนด์แทน ซึ่งได้ดอกเบี้ยหน้าตั๋วสูงกว่าและความเสี่ยงต่ำกว่า ถึงตอนนี้แม้ยิลด์จะอยู่ในแนวโน้มขึ้น แต่หุ้นยังน่าสนใจกว่าบอนด์ ทาง MFC จึงคงเป้าหมายดัชนีหุ้นไทยสิ้นปีนี้ไว้ที่ 1,870 จุด”นายชาคริต กล่าว
ส่วนความกังวลเม็ดเงินลงทุนต่างชาติ (ฟันด์โฟล์ว) จะไหลออกจากตลาดหุ้นไทยกลับไปสหรัฐนั้นไม่น่าห่วง เพราะนักลงทุนต่างชาติขายหุ้นออกไปมากแล้ว ปัจจุบันถือครองอยู่ไม่มาก จึงไม่น่าจะเห็นแรงขายรุนแรง
อย่างไรก็ตามการที่บอนด์ยิลด์สหรัฐปรับตัวขึ้นนั้นส่งผลกระทบต่อกองทุนตราสารหนี้จากการตีมูลค่าตามราคาตลาด จึงจำเป็นต้องปรับลดระยะเวลาการถือครองตราสารเฉลี่ยอายุสั้นลง จนกว่าจะมีความชัดเจนมากขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง
ส่วนภาคธุรกิจยังไม่ได้รับผลกระทบต่อต้นทุนทางการเงินที่ปรับสูงขึ้น เนื่องจากบริษัทส่วนใหญ่ล็อคต้นทุนออกหุ้นกู้ที่ไม่ได้สูงสำหรับการลงทุนในระยะ 3-5 ปีไปก่อนหน้านี้แล้ว แต่หากจะออกหุ้นกู้ใหม่ในช่วงนี้คงต้องเสนอดอกเบี้ยที่สูงพอสมควรและอายุต้องไม่ยาวเกินไป เพื่อจูงใจนักลงทุน