ดาวโจนส์ปิดบวก 76 จุด จ้างงานนอกภาคเกษตรแกร่ง

HoonSmart.com>>ดาวโจนส์ผันผวน ก่อนที่จะปิดเพิ่มขึ้น 76 จุด ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.ค.เพิ่มขึ้น 528,000 ตำแหน่ง สูงกว่า 258,000 ตำแหน่งที่นักวิเคราะห์คาดไว้กว่า 2 เท่า ส่งสัญญาณเงินเฟ้อยังเป็นปัญหา นักลงทุนวิตกว่าจะทำให้เฟดเดินหน้าปรับขึ้นดอกเบี้ย หนุนกลุ่มธนาคาร อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีขึ้นมาใกล้ 2.84%  หุ้นยุโรปส่วนใหญ่ลดลง ราคาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นเล็กน้อย

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) วันที่ 5 ส.ค. 2565 ปิดที่ 32,803.47 จุด เพิ่มขึ้น 76.65 จุด หรือ 0.23% ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน หลังจากการรายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนกรกฎาคมที่แข็งแกร่ง ทำให้นักลงทุนเทขายหุ้น เนื่องจากวิตกว่าจะมีผลให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) เดินหน้าปรับขึ้นดอกเบี้ย

ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,145.19 จุด ลดลง 6.75 จุด, -0.16%ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 12,657.56 จุด ลดลง 63.02 จุด, -0.50%

ในรอบสัปดาห์นี้ ดัชนีดาวโจนส์ลดลง 0.1% ดัชนี S&P500 เพิ่มขึ้น 0.4% และดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 2.2%

อย่างไรก็ดีตลาดได้รับแรงหนุนส่วนหนึ่งจากการปรับขึ้นกลุ่มธนาคารจากความคาดหวังว่าเฟดจะขึ้นดอกเบี้ยอย่างมาก โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีปรับขึ้นมาที่ระดับใกล้ 2.84%

โดยหุ้นเจพีมอร์แกน พุ่งขึ้น 3% และช่วยหนุนดัชนีดาวโจนส์ให้ยังคงปรับตัวอยู่ในแดนบวกได้

กระทรวงแรงงานรายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนกรกฎาคมเพิ่มขึ้น 528,000 ตำแหน่ง สูงกว่า 258,000 ตำแหน่งที่นักวิเคราะห์คาดไว้กว่า 2 เท่า อัตราการว่างงานลดลงสู่ระดับ 3.5% ต่ำกว่า 3.6% ที่นักวิเคราะห์คาด ส่วนค่าจ้างรายชั่วโมงเฉลี่ยปรับขึ้น 0.5% จากเดือนก่อนและเพิ่มขึ้น 5.2% จากระยะเดียวกันของปีก่อน ส่งสัญญาณว่าเงินเฟ้อยังคงเป็นปัญหา

ในช่วงแรกหลังการรายงานข้อมูล ตลาดเปิดในแดนลบ แม้ข้อมูลจะบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจไม่ได้ถดถอย แต่ก็สะท้อนว่าตลาดแรงงานยังแข็งแกร่ง ซึ่งหมายความเฟดอาจจะขึ้นดอกเบี้ยในเชิงรุกในการประชุมเดือนหน้า

นักเศรษฐศาสตร์เชื่อว่าจากข้อมูลการจ้างงานนี้จะทำให้เฟดจะเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยในเชิงรุก อาจจะถึง 0.75% ในการประชุมเดือนกันยายน เช่นเดียวกับนักลงทุนที่เชื่อว่าเฟดจะดำเนินนโยบายการเงินข้มข้นขึ้น และยังมีข้อมูลการจ้างงานกับรายงานเงินเฟ้ออีกสองครั้งให้พิจารณาก่อนการประชุมเดือนหน้า

หุ้นเทสลา ลดลง 6.6% หุ้นเมตา แพลตฟอร์มส์ ลดลง 2% และหุ้นแอมะซอน ลดลง 1.2%

ตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ปรับตัวลดลงเล็กน้อย โดยกลุ่มเทคโนโลยีลดลง 2.4% หลังข้อมูลการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนกรกฎาคมของสหรัฐฯแข็งแกร่งเกินคาด ทำให้นักลงทุนคาดว่าเฟด ยังคงปรับขึ้นดอกเบี้ยเชิงรุกเพื่อคุมเงินเฟ้อ เพราะความเสี่ยงที่เศรษฐกิจจะถดถอยได้หมดไป

นอกจากนี้นักลงทุนยังเกาะติดการรายงานผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 435.72 จุด ลดลง 3.34 จุด, -0.76%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,439.74 จุด ลดลง 8.32 จุด, -0.11%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,472.35 จุด ลดลง 41.04 จุด, -0.63%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 13,573.93 จุด ลดลง88.75 จุด, -0.65%

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนกันยายน เพิ่มขึ้น 47 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 89.01 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนืองวดส่งมอบเดือนตุลาคม เพิ่มขึ้น 80 เซนต์ หรือ 0.9% ปิดที่ 94.92 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล