YONG เปิดเทรดวันแรก 4.50 บาท เหนือจอง 80%

HoonSmart.com>>หุ้น YONG เปิดเทรดวันแรกที่ 4.50 บาท เหนือจอง 80% บล.ทิสโก้ ประเมินมูลค่าเหมาะสมปี 66 ที่ 3.2 บาท บริษัทมีแนวโน้มที่ดี จากการฟื้นตัวของการลงทุนของภาครัฐ อีกทั้งยังมีแผนลงทุนขยายโรงงานและกำลังผลิตสอดคล้องกับโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐ ช่วยหนุนการเติบโตในระยะยาว

หุ้น YONG เปิดเทรดวันแรกที่ 4.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท หรือ +80% จากราคาขาย IPO ที่ 2.50 บาท/หุ้น

บล.ทิสโก้ ประมาณการเบื้องต้นบริษัท ยงคอนกรีต (YONG) มีมูลค่าที่เหมาะสมในปี 2566 ที่ 3.2 บาท (อิงบริษัทในกลุ่มอุตสาหกรรมทั้งที่มีลักษณะการดำเนินธุรกิจใกล้เคียงกัน ที่ P/E 20 เท่า) มองว่าบริษัทมีแนวโน้มที่ดี จากการฟื้นตัวของการลงทุนของภาครัฐ และยังถูกหนุนจากโครงการของเอกชนที่มีการเลื่อนเปิดโครงการมายังปีนี้ อีกทั้งยังมีแผนการลงทุนในการขยายโรงงานและกำลังผลิตที่สอดคล้องกับโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐ ซึ่งช่วยหนุนการเติบโตของบริษัทได้ในระยะยาว สำหรับปัจจัยที่ต้องระวังของ YONG คือ การแข่งขันในอุตสาหกรรมที่สูง และราคาของวัตถุดิบในการผลิตที่มีแนวโน้มสูงขึ้น (และบริษัทอาจเพิ่มราคาสินค้าขายไม่ทันต้นทุนที่เพิ่มขึ้น) ซึ่งอาจกดดันให้อัตรากำไรของบริษัทต่ำกว่าคาด

YONG ดำเนินธุรกิจโดยการเป็นผู้ผลิต และจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์คอนกรีตสำเร็จรูป คอนกรีตผสมเสร็จ โครงสร้าง คาน เสาและผนังสำเร็จรูป รั้วคอนกรีตสำเร็จรูป เสาไฟฟ้าคอนกรีตอัดแรง เสาเข็มคอนกรีตอัดแรง ขอบคันหิน ท่อคอนกรีตอัดแรง และแผ่นพื้นคอนกรีตสำเร็จรูป ภายใต้เครื่องหมายการค้า “YONG” และดำเนินการขนส่งสินค้าภายใต้การดำเนินการโดยบริษัท พร้อมขนส่ง จำกัด (บริษัทย่อย) โดยมีพื้นที่ให้บริการในภาคกลาง ภาคตะวันตกและภาคตะวันออก และมีลูกค้าแบ่งเป็น 3 กลุ่มคือ 1) ลูกค้าโครงการภาคเอกชน (สัดส่วนรายได้ 1Q22 ที่ 34.81%) 2) ลูกค้าภาครัฐ (สัดส่วนรายได้ 1Q22 ที่ 3.43%) 3) กลุ่มลูกค้าทั่วไปซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าที่มีลักษณะการขายจบเป็นครั้งต่อครั้งในลักษณะของการเปิด PO โดยไม่มีการทำสัญญาซื้อขาย (สัดส่วนรายได้ 1Q22 ที่ 61.76%)

โครงการในอนาคตของบริษัท 1. บริษัทฯ มีแผนในการขยายกำลังการผลิตโรงงานสาขาบางเลน ในกลุ่มสินค้าใน 3 กลุ่มสินค้า คือ สินค้าเสาเข็มคอนกรีตสำเร็จรูป, สินค้าแผ่นพื้นสำเร็จรูป และสินค้าคอนกรีตผสมเสร็จ ซึ่งเป็นกลุ่มสินค้าที่มีการเติบโตของของรายได้ที่สูงรวมถึงมีอัตราการใช้กำลังการผลิตเมื่อเทียบกับกำลังการผลิตสูงสุดอยู่ในอัตราที่สูง

2. บริษัทฯ มีแผนการขยายสาขาโรงงานผลิตคอนกรีตผสมเสร็จ (RMC) ที่ ต.บางใหญ่ อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี เพื่อรองรับการเติบโตยอดขายคอนกรีตผสมเสร็จของบริษัทตามการขยายตัวของการก่อสร้างในพื้นที่ดังกล่าว โดยบริษัทมีแผนที่จะเช่าที่ดินที่เนื้อที่ประมาณ 4 ไร่ ระยะเวลาไม่เกิน 3 ปี และคาดว่าจะเริ่มดำเนินการก่อสร้างประมาณช่วงเดือนมิถุนายน 2565 และคาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จสามารถเริ่มการผลิตและรับรู้รายได้ในไตรมาสที่ 3 ปี 2565 มีมูลค่าการลงทุนประมาณ 20 ล้านบาท

3. บริษัทจึงมีแผนการลงทุนสร้างโรงงานสาขาระยองเพื่อรองรับการเติบโตของยอดขายบริษัทให้เป็นไปตามแผนธุรกิจ โดยแบ่งการก่อสร้างโรงงานผลิตภัณฑ์คอนกรีตสำเร็จรูปสาขาระยอง เป็น 2 เฟส ดังรายละเอียดคือ เฟสที่ 1 คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างไตรมาส 4 ปี 2565 และก่อสร้างแล้วเสร็จในไตรมาส 4 ปี 2566 โดยคาดว่าจะสามารถเริ่มผลิตสินค้ารับรู้รายได้ตั้งแต่ไตรมาส 1 ปี 2567 และคาดว่าจะมีกำลังการผลิตสูงสุดรวมในเฟสที่ 1 ประมาณ 81,120 ลบ.ม. (บริษัทประมาณการงบประมาณในการลงทุนก่อสร้างโรงงานสาขาระยองในเฟสที่ 1 มูลค่าการลงทุนประมาณ 200 ล้านบาท) ส่วนในเฟสที่ 2 คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างในช่วงต้นไตรมาส 3 ปี 2567 และก่อสร้างแล้วเสร็จภายในช่วงไตรมาส 2 ปี 2568 โดยคาดว่าจะสามารถเริ่มรับรู้รายได้ตั้งแต่ไตรมาส 3 ปี 2568