โบรกฯ มองหุ้นไร้ทิศทาง หวังน้ำมันหนุนหุ้นพลังงาน

โบรกฯ มองตลาดหุ้นแกว่งตัวในกรอบแคบ ไร้ทิศทาง ตลาดต่างประเทศกลับมาวิตกสงครามการค้า หวังน้ำมันเพิ่มหนุนกลุ่มพลังงานดันดัชนี กรอบ 1,740-1,759 จุด

บริษัทหลักทรัพย์ คันทรี่ กรุ๊ป คาด SET INDEX ไร้ทิศทางกรอบ 1740-1759 แม้บรรยากาศการลงทุนวันนี้จะค่อนข้างเป็นลบหลัง Dow Jones ปรับตัวลงกว่า 181 จุด แต่อย่างไรก็ดีมองว่าดัชนีจะได้แรงหนุนจากกลุ่มพลังงานหลังราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับตัวขึ้นกว่า 3.1% หลังที่ประชุมกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน OPEC และนอก OPEC ตัดสินใจคงกำลังการผลิตน้ำมัน

สำหรับวานนี้ที่ดัชนีปรับตัวลงกว่า 6.7 จุดนั้นยังไม่น่ากังวลและมองเป็นโอกาส เนื่องจากมองว่าปัจจัยในประเทศยังคงแข็งแกร่ง ไม่ว่าจะจากการเลือกตั้งที่ดูชัดเจนมากขึ้น ค่าเงินที่แข็งค่าสุดในกลุ่มประเทศเกิดใหม่ อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ดีกว่าคาดรวมถึงเงินเฟ้อและดอกเบี้ยที่ยังอยู่ในระดับต่ำหนุนการบริโภค

ในเชิงกลยุทธ์การลงทุนหากดัชนียังอยู่สูงกว่าบริเวณ 1730 มองว่าโมเมนตัมยังเป็นบวกสำหรับการลงทุนระยะสั้น แนะนำกลุ่มค้าปลีก (BJC, CPALL, COM7, ROBINS, SYNEX) รวมถึงหุ้นเกี่ยวข้องกับการลงทุน (AMATA ,BBL, CK, KBANK,STEC ,WHA) และกลุ่มสื่อ (PLANB) เชื่อว่าการเลือกตั้งที่ชัดเจนจะหนุนการบริโภครวมถึงการลงทุนให้ฟื้นตัวได้ โดยยังคงใช้เงินลงทุนเพียง 50% จนกว่าจะเห็นพัฒนาการที่ดีของผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนโดยรวม

บล.กรุงศรี มองแนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้คาด SET Index แกว่งตัวในกรอบ 1,740 – 1,760 จุด เนื่องจากขาดปัจจัยใหม่กระตุ้นการลงทุน โดยแม้ว่าจะมีแรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบที่พุ่งขึ้นทำ High ในรอบ 2 เดือนเหนือ 72 US/Barrel หลังกลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมันทั้งในและนอกโอเปกคงปริมาณการผลิตน้ำมันซึ่งเป็นบวกต่อกลุ่มพลังงาน

อย่างไรก็ตามความกังวลผลกระทบสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนยังคงเป็นแรงกดดันหลังจีนยกเลิกแผนการเจรจาการค้ากับสหรัฐในสัปดาห์นี้รวมถึงสหรัฐและจีนเก็บภาษีสินค้านำเข้าระหว่างกันรอบใหม่ซึ่งมีผลแล้วเมื่อวานนี้ (24 ก.ย.) นอกจากนี้คาดว่า Fund Flow จะชะลอตัวเพื่อรอการประชุม FOMC ในวันที่ 25 -26 ก.ย.ที่คาดว่าจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25% เป็น 2.25% ซึ่งจะเป็นแรงกดดันต่อดัชนีในช่วงนี้

บล.ฟินันเซีย ไซรัส มองแนวโน้มตลาดวันนี้ คาดว่า SET Index ยังคงอยู่ในช่วงแกว่งตัว Sideways พักฐานต่อเนื่องหลังจากที่ปรับตัวขึ้นแรงและเร็วในช่วงก่อนหน้า โดยกลุ่มพลังงานคาดว่าจะยังพยุงตลาดได้ตามราคาน้ำมันดิบที่พุ่งขึ้นหลัง OPEC ยังไม่เพิ่มกำลังการผลิต แต่ยังมีปัจจัยที่ต้องติดตามทั้งการประชุม FED ในช่วง 2 วันนี้ รวมถึงความไม่แน่นอนด้านการเมืองของสหรัฐฯกรณีขัดแย้งตัวรัฐมนตรีช่วยยุติธรรม ส่งผลให้กระแสเงินทุนคาดว่ายังชะลอตัวในระยะนี้ อย่างไรก็ตามเรายังมีมุมมองเป็นบวกในระยะกลางสำหรับการปรับขึ้นของ SET โดยเลือกหุ้นที่ Laggard มากขึ้น

กลยุทธ์ เน้นลงทุนในกลุ่มพลังงานและหุ้นที่ยัง Laggard ระยะกลาง-ยาวยังเน้นถือ Let Profit Run