HoonSmart.com>>โบรกเกอร์ต่างมีมุมมองเป็นบวกต่อการลงทุนในเดือนส.ค. เฟดเร่งขึ้นดอกเบี้ยใกล้จุดสูงสุด จากเดือนก.ค. ปรับขึ้น 0.75% หลังจากนั้นจะชะลอตัว ครึ่งหลังปี 65 ไทยยังมีตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจฟื้นตัวขึ้น คาดดัชนีฯมีโอกาสขึ้นได้สูงสุด 1,630 จุด ต่ำสุดแถว 1,500 จุด เล็ง 18 หุ้นน่าสนใจ KBANK, BBL, SCB, BGRIM, GPSC,CPALL, MAJOR, MTC, SAWAD, TIDLOR, AMANAH, OR, PTG, CBG, BANPU, IVL , CENTEL, MINT
นายสุโชติ ถิรวรรณรัตน์ ผู้จัดการฝ่ายวิจัย บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) กล่าวว่า มีมุมมองเป็นบวกต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อัตรา 0.75% ในรอบนี้ หลังจากนี้เฟดน่าจะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้ ส่วนไทยยังมีความเสี่ยงที่เศรษฐกิจจะชะลอตัวได้ แต่ตลาดคงจะไม่ปรับตัวลงลึก โดยมองตลาดใกล้ bottom คาดในเดือนส.ค.ดัชนีฯมีโอกาสที่จะปรับขึ้นได้แถว 1,600-1,610 จุด และมีโอกาสจะลงมาแถวแนวรับ 1,555-1,530 จุด
ทั้งนี้ ตลาดฯยังมีความเสี่ยงที่จะต้องจับตาดูในเรื่องการเปิดเมืองของจีน หากมีความล่าช้า คนจีนจะเข้ามาเที่ยวไทยช้าลงด้วย และทิศทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ถ้าชะลอตัวก็อาจจะกระทบเศรษฐกิจทั่วโลกไปด้วย
อย่างไรก็ดี ในเดือนส.ค.หุ้นที่น่าสนใจลงทุนมองกลุ่มธนาคารเด่น ได้รับประโยชน์จากอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น แนะนำ หุ้น KBANK, BBL, SCB ซึ่ง SCB น่าสนใจลงทุนตรงที่ราคาหุ้นได้ปรับตัวลงไปมากกว่าแบงก์อื่น จากความกังวลเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัล และหุ้นในกลุ่มโรงไฟฟ้า น่าสนใจหลังราคาหุ้นปรับตัวลงลึก จากความกังวลต้นทุนพลังงานสูง ตอนนี้ราคาน้ำมันดิบชะลอการปรับขึ้นแล้ว และรัฐฯขึ้นค่า Ft มาช่วยชดเชยได้บ้าง แนะนำ BGRIM, GPSC
นอกจากนี้ หุ้นในกลุ่มเปิดเมือง เปิดประเทศ ก็น่าสนใจ แต่จะโฟกัสที่กลุ่มค้าปลีก ที่ราคาหุ้นปรับตัวลงไปแล้วและยังไม่ฟื้น แนะนำหุ้น CPALL ยังฟื้นตัวได้น้อย, MAJOR ราคาหุ้นยัง Laggard
นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่า ทิศทางการลงทุนในเดือนส.ค.มองเป็นบวก หลังจากที่ตลาดได้รับรู้ปัจจัยลบไปส่วนใหญ่แล้ว ทั้งเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด, เงินเฟ้อที่สูง และกำไรของบริษัทจดทะเบียนมีแนวโน้มจะชะลอได้ จากต้นทุนราคาสินค้าโภคภัณฑ์สูง และภาวะสงครามในยูเครน แม้ครึ่งหลังปี 2565 การเปิดเมืองจะเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยอยู่ แต่ถ้างบไตรมาส 2/65 ของบริษัทจดทะเบียนออกมาไม่ดี คนก็จะรอซื้อมากกว่าขาย เพราะมองถึงโอกาสตลาดจะปรับขึ้นสอดรับปัจจัยบวก
“ตลาดรับรู้เฟดขึ้นดอกเบี้ยมากแล้ว และดอกเบี้ยเป็นภาพที่ดูบวก จากอัตราดอกเบี้ยล่วงหน้าของเฟดมีสัญญาณจะขึ้นได้อีก 1% ถึง 1.25% ซึ่งรอบนี้เฟดขึ้นดอกเบี้ย 0.75% รอบต่อไปเดือนก.ย. เป็นไปได้ที่จะปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.25% ดูจากสัญญาณตลาดล่วงหน้า ซึ่งโทนการขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐอาจชะลอจึงป็นบวก และถ้าไม่มีประเด็นทำให้เงินเฟ้อเร่งตัวขึ้น ตอนนี้มองนโยบายของเฟดอยู่ในโทนไม่น่าจะลบมาก ดูน่าจะผ่อนคลายขึ้น”
ทั้งนี้ ต่อให้เศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอย แต่บริษัทจดทะเบียนในสหรัฐฯไม่จำเป็นต้องแย่ไปด้วย เศรษฐกิจสหรัฐถดถอยจะกระทบในเชิงจิตวิทยา แต่อาจไม่กระทบผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนมาก ซึ่งการไม่สอดคล้องกันนี้ จะเป็นผลดีต่อตลาดหุ้น
สำหรับการลงทุนในเดือนส.ค.นี้ มองหุ้นในกลุ่มไฟแนนซ์น่าสนใจ แนะนำ MTC, SAWAD, TIDLOR, AMANAH และหุ้นกลุ่มสถานีบริการน้ำมัน แนะนำหุ้น OR, PTG ที่จะฟื้นตามการเปิดเมือง เปิดประเทศ ส่วนการบริโภคเลือกลงทุนได้หลายตัว แนะนำหุ้น CBG ผลประกอบการมีสัญญาณฟื้น และรับผลกระทบจำกัดจากประเด็นในเมียนมา, CPALL และ MAKRO ผลงานไตรมาส 2/65 ไม่ดีมากจากกำลังซื้อชะลอ และหมดมาตรการภาครัฐ แต่ถ้าราคาหุ้นปรับตัวลงก็รอซื้อได้หลังงบฯออก
ส่วนหุ้นในกลุ่มพลังงงาน และปิโตรเคมี แม้ผลงานไตรมาส 2/65 จะดี แต่ครึ่งหลังปี 65 อาจชะลอ ทำให้ลดน้ำหนักลงทุนได้ จึงแนะนำลงทุนแค่ BANPU เด่นที่สุด จากต้นทุนไม่ค่อยเปลี่ยนแปลง แต่ราคาขายถ่านหินสูงขึ้น และเป็นเจ้าของแหล่งก๊าซธรรมชาติในต่างประเทศด้วย, IVL แนวโน้มกำไรปี 2565-2566 เติบโตดี สำหรับธีมเปิดเมือง การท่องเที่ยว อาจเห็นการฟื้นตัวแต่ไม่มาก เนื่องจาก Outperform ไปแล้ว
“ในเดือนส.ค.ดัชนีฯขึ้นได้ดีสุดที่ 1,630 จุด แต่ให้น้ำหนักแค่ 20% ในตอนนี้ที่จะไปถึงได้ ซึ่งมองกรอบแนวรับ 1,540 จุด ส่วนแนวต้าน 1,600 จุด”
นายธนเดช รังษีธนานนท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บล.พาย กล่าวว่า เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.75% เป็นไปตามคาด และมีแนวโน้มที่จะชะลอการขึ้นดอกเบี้ยได้จริงก็ถือว่าเป็นข่าวดี ซึ่งมองดัชนีมีโอกาสปรับขึ้นทดสอบระดับ 1,600 จุด แต่อาจจะยังผ่านไปได้ยาก เนื่องจากมีปัจจัยเสี่ยงภาวะเศรษฐกิจที่อาจชะลอตัวได้ ทำให้ด้านล่างมองที่ 1,530-1,500 จุด
หุ้นที่น่าสนใจลงทุนในเดือนส.ค.นี้ มองหุ้นที่มีการปรับตัวลงไปมากแล้ว ทำให้มีโอกาสที่จะรีบาวด์ขึ้นได้ อย่างหุ้นในกลุ่มธนาคาร ซึ่งผลดำเนินงานโดยรวมก็ออกมาดีด้วย, หุ้นในกลุ่มเปิดเมือง กลุ่มการท่องเที่ยว การบริโภค หุ้นแนะนำได้แก่ BBL, KBANK, SCB, CENTEL, MINT และ MTC ซึ่งเป็นหุ้นในกลุ่มการเงินที่ราคาหุ้นปรับตัวลงไปมากแล้ว ก็น่าสนใจเช่นกัน