HoonSmart.com>>ธปท.เตือนสัปดาห์หน้า ระวังเงินทยอยไหลออก นักลงทุนกังวลเศรษฐกิจสหรัฐถดถอย ขายสินทรัพย์ไทยที่ถือเป็นสินทรัพย์เสี่ยงส่วนเรื่องเศรษฐกิจครึ่งปีหลัง จับตาต้นทุน ค่าแรง ราคาสินค้าที่เพิ่มขึ้น รวมถึงอุปสงค์จากต่างประเทศชะลอตัว สถานการณ์โควิด
นางสาวชญาวดี ชัยอนันต์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายบริการการสื่อสารองค์กร ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ในช่วงสั้น ๆ ประมาณสัปดาห์หน้าอาจจะยังเห็นสถานการณ์เงินทุนเคลื่อนย้าย หลังจากตลาดฯคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย นักลงทุนยังคงกังวลเรื่องความเสี่ยง ไม่ใช่แค่ดอกเบี้ยสหรัฐที่จะสูงขึ้นเท่านั้น แต่ยังมีเรื่องเศรษฐกิจถดถอย ซึ่งอาจปรับตัวและจะทำให้มีการเคลื่อนย้ายเงินทุนในระยะสั้น โดยเฉพาะทยอยออกจากประเทศที่ถือเป็นการลงทุนสินทรัพย์เสี่ยง อย่างตลาดเกิดใหม่ เข้าไปที่ประเทศตลาดปลอดภัย แต่เบื้องต้นยังไม่เห็นประเด็นที่น่าเป็นกังวล
แนวโน้มเศรษฐกิจในเดือน ก.ค.2565 จะฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องจากเดือน มิ.ย.และในช่วงครึ่งปีหลังยังจะได้รับแรงส่งจากไตรมาส 2/2565 เครื่องชี้เศรษฐกิจดีเกือบทั้งหมด คาดว่าจะขยายตัวได้สูงกว่า 3% เล็กน้อย จากการบริโภคภาคเอกชนเพิ่มขึ้นจากหมวดบริการเป็นสำคัญ และจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ภาคการค้าและภาคบริการฟื้นตัว แต่การผลิตภาคอุตสาหกรรมลดลงจากปัญหาการขาดแคลนชิ้นส่วน
ธปท.ยังต้องติดตาม การปรับเพิ่มขึ้นของต้นทุน ค่าจ้างและราคาสินค้า รวมถึงอุปสงค์ในต่างประเทศที่อาจชะลอตัว รวมถึงการแพร่ระบาดของโควิด -19 ต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจ โดยธปท. ยังคงคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจในปีนี้จะขยายตัวได้ 3.3% ตามคาดการณ์เมื่อเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา
นางสาวชญาวดี กล่าวอีกว่า ในช่วงสั้น ๆ ประมาณสัปดาห์หน้าอาจจะยังเห็นสถานการณ์เงินทุนเคลื่อนย้าย หลังจากตลาดฯคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย นักลงทุนยังคงกังวลเรื่องความเสี่ยง ไม่ใช่แค่ดอกเบี้ยสหรัฐที่จะสูงขึ้นเท่านั้น แต่ยังมีเรื่องเศรษฐกิจถดถอย ซึ่งอาจปรับตัวและจะทำให้มีการเคลื่อนย้ายเงินทุนในระยะสั้น โดยเฉพาะทยอยออกจากประเทศที่ถือเป็นการลงทุนสินทรัพย์เสี่ยง อย่างตลาดเกิดใหม่ เข้าไปที่ประเทศตลาดปลอดภัย แต่เบื้องต้นยังไม่เห็นประเด็นที่น่าเป็นกังวล
ด้านธปท.ระบุว่า ในเดือน ก.ค. ธุรกิจภาคการค้าและบริการมีแนวโน้มปรับดีขึ้นตามกิจกรรมทางเศรษฐกิจ แต่ราคาสินค้าที่ปรับสูงขึ้นต่อเนื่องกดดันการฟื้นตัวของกำลังซื้อ
สินค้าอุปโภคบริโภค คาดว่าดีขึ้นเล็กน้อย สินค้าคงทนดีขึ้นเล็กน้อย ตามการทยอยส่งมอบรถยนต์และการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ รวมทั้งการส่งเสริมการตลาดของผู้ประกอบการ สอดคล้องกับยอดจองที่เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน ขณะที่โรงแรมและร้านอาหารดีขึ้นจากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เพิ่มขึ้นหลังยกเลิก Thailand Pass และการขยายสิทธิ์โครงการเราเที่ยวด้วยกันเฟส 4
ส่วนการขนส่งผู้โดยสารและขนส่งสินค้าดีขึ้น ตามการขนส่งผู้โดยสารทางอากาศและทางบก จากการเปิดประเทศและวันหยุดยาว รวมทั้งกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ดีขึ้นและการเติบโตของธุรกิจ e-Commerce แต่ต้นทุนที่สูงจากราคาน้ำมันยังคงกดดันอยู่
อสังหาริมทรัพย์ทรงตัวตามความต้องการบ้านแนวราบและกลุ่ม Luxury ที่มีต่อเนื่อง ประกอบกับความต้องการกลุ่มอาคารชุดเริ่มฟื้นตัวหลังการเปิดประเทศ แต่ภาระค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น รายได้ที่ฟื้นตัวช้าและแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยขาขึ้นยังเป็นปัจจัยกดดันการเติบโตในระยะข้างหน้า ส่วนก่อสร้างดีขึ้นเล็กน้อย ทั้งงานภาครัฐและภาคเอกชน แต่ยังได้รับผลกระทบจากราคาวัสดุก่อสร้างที่อยู่ในระดับสูง ปัญหาการขาดแคลนแรงงานต่างด้าวมีแนวโน้มปรับดีขึ้นบ้าง
ด้านการผลิต ตลาดในประเทศทรงตัว จากการทยอยเพิ่มราคาอาหารและเครื่องดื่มตามต้นทุนที่เพิ่มขึ้น แต่ยังถูกกดดันจากกำลังซื้อที่อ่อนแอ ส่วนตลาดส่งออกทรงตัว โดยมีคำสั่งซื้อต่อเนื่องในหลายกลุ่มสินค้า เช่น อาหารกระป๋อง ยานยนต์ และสิ่งทอ แต่ต้นทุนการผลิตและอัตราเงินเฟ้อสูงในหลายประเทศ อาจกดดันกำลังซื้อในระยะถัดไป