บล.หยวนต้าลั่นเข้าตลาดหุ้นปี’67 บริการครบวงจร เพิ่มมั่งคั่งลูกค้า

HoonSmart.com>>”บุญพร บริบูรณ์ส่งศิลป์” นำทีมผู้บริหารบล.หยวนต้าฯแถลงผลงาน มีกำไรทุกปีนับตั้งแต่เปิดบริการ 5 ปีครึ่ง ปี 64 กำไรทะลุ 1 พันล้านบาท ชูโมเดล One Stop Service ตอบโจทย์ทุกการลงทุน รวมถึงสินทรัพย์ดิจิทัล ทุ่มลงทุนเทคโนโลยี 400 ล้านบาท พัฒนาบุคคลากร มีทุนหนา 4,500 ล้านบาท ให้มาร์จิ้นถึง 16,000 ล้านบาท ธุรกิจวาณิชธนกิจ-ตราสารหนี้-DW-บริหารความมั่งคั่งไปได้สวย นักวิเคราะห์เด่น องค์กรมุ่งเน้น ESG

นางบุญพร บริบูรณ์ส่งศิลป์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ร่วมกับผู้บริหารแถลงถึงความสำเร็จในการดำเนินงานว่า นับตั้งแต่เปิดให้บริการมากว่า 5 ปีครึ่งว่า มีกำไรสุทธิทุกปี โดยในปี 2564 มีกำไรกว่า 1,000 ล้านบาท ในปีนี้ตั้งเป้าจะมีกำไรดีขึ้น แต่เจอกับปัญหาสงครามรัสเซีย-ยูเครนและสถานการณ์โควิด-19 ระบาดที่ยังคงยื้อเยื้อ ทำให้มูลค่าการซื้อขายหุ้นลดลง โดยเฉพาะนักลงทุนรายย่อยที่เป็นฐานลูกค้าของบริษัท ส่วนธุรกิจอื่นๆ ดีขึ้น บริษัทมีแผนนำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย คาดว่าจะเกิดขึ้นภายในปี 2567

“ในช่วงแรกของการก่อตั้งบริษัทฯ เราให้ความสำคัญในการพัฒนารากฐานที่แข็งแรงและเตรียมตัวเพื่อการเติบโตในอนาคต โดยมุ่งเน้นการพัฒนาธุรกิจหลัก โบรกเกอร์ที่มีฐานลูกค้ารายย่อย แต่หยวนต้าไม่ใช่ discount โบรกเกอร์ เป็น premium โบรกเกอร์ ต้องทำงานหนักและลงทุนหนัก บริษัทต้องการให้ลูกค้าเข้ามาใช้บริการเป็น One Stop Service จึงต้องค้นหาผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ๆ เสมอ เพราะรูปแบบการลงทุนเปลี่ยนแปลงไปมาก ผู้ให้บริการจะมุ่งเน้นที่ความมั่งคั่งของลูกค้าเป็นหลัก  การเกิดขึ้นของ Digital Asset จะเป็นสิ่งที่ทวีความสำคัญมากขึ้นในโลกการลงทุน ซึ่งถือว่าบริษัทเดินมาถูกทางและเป็นที่ยอมรับในวงกว้างมากยิ่งขึ้น เมื่อลูกค้าลงทุนแล้วได้กำไรก็มาลงทุนกับเราต่อในระยะยาว “นางบุญพรกล่าว

บล.หยวนต้า มีจุดแข็งที่มีทุนจดทะเบียน 4,500 ล้านบาท แสดงถึงความเชื่อมั่นของบริษัทแม่ ซึ่งไม่มีโบรกเกอร์ไหนมีเงินสดจริงๆมาลงทุน แต่เป็นโจทย์ใหญ่ต้องทำให้สำเร็จ ให้ผู้ถือหุ้นและพนักงานเชื่อมั่นว่าจะไปได้ดี ด้วยประสบการณ์ จึงมีความมั่นใจค่อนข้างจะสูง ปัจจุบันบริษัทมีการปล่อยมาร์จิ้นสูงถึง 16,000 ล้านบาท สูงสุดในระบบ ทุนที่มีอยู่ตามเกณฑ์สามารถปล่อยกู้ได้ถึง 5 เท่า หรือสูงกว่า 22,500 ล้านบาท หุ้นทุกตัวมีการคัดเลือกอย่างดี แบ่งเกรดและบริหารความเสี่ยง บริษัทมีการวางโครงสร้างพื้นฐาน ลงทุนครั้งแรก 300 ล้านยาาท และลงทุนเพิ่มอีก 100 ล้านบาท รวม 400 ล้านบาท สร้างเครือข่ายในการให้บริการทุกผลิตภัณฑ์ พร้อมกับการให้ความรู้กับพนักงานและลูกค้า เพื่อเตรียมความพร้อมในธุรกิจของหยวนต้า  ประสิทธิภาพของบริษัทสามารถให้บริการ Any time Any where

ปัจจุบัน นอกจากบล.หยวนต้าจะการเป็นตัวกลางในการซื้อขายหุ้นโดยการให้คำแนะนำที่ถูกต้องแม่นยำแล้ว ยังเน้นการลงทุนในผลิตภัณฑ์ที่ความหลากหลายมากขึ้น เพื่อตอบโจทย์การบริหารความมั่งคั่งหรือ Wealth Management  ตั้งเป้าจะต้องเป็น Investment Choice ระดับแรก ๆ ของนักลงทุน และมี Excellence Services การบริการที่เป็นเลิศ ระดับชั้นนำของอุตสาหกรรม ปัจจุบันเริ่มเห็นความสำเร็จในหลายด้าน อาทิ

1.ทีมวิเคราะห์ได้คว้ารางวัลนักวิเคราะห์ยอดเยี่ยม ประจำปี 2021 ถึง15 หมวดอุตสาหกรรม ซึ่งมากที่สุดในประวัติศาสตร์ตลาดหุ้นไทย จึงเป็นเครื่องยืนยันถึงความมุ่งมั่นและความทุ่มเท เพื่อสร้างความสำเร็จให้กับลูกค้า นอกจากนี้ยังมีการเติมเต็มสาระความรู้ได้ตลอดทั้งวันผ่านหลายช่องทาง ถือเป็นโบรกเกอร์แห่งแรกที่จัดรายการด้านการลงทุนมอบให้แก่นักลงทุนกว่า 11 รายการตลอดทั้งสัปดาห์  และเป็นช่องที่มีผู้รับชมมากที่สุดในขณะนี้

บริษัทยังมีการพัฒนาการวิเคราะห์เชิงปริมาณ เพื่อรองรับรูปแบบการวิเคราะห์วิจัยแนวใหม่ที่ใช้ Big Data และ AI  บริษัทได้รับรางวัลชนะเลิศ Thailand ICT Award (TICTA) ด้านการวิจัยและปัญญาประดิษฐ์ในปี 2017, 2018 และ ปี 2020 และเป็นตัวแทนเข้าแข่งในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค

2. Application “Yuanta NAVI”  รวมตัวช่วยในการลงทุนครบวงจรไว้ในที่เดียว เป็น Application หลักให้กับนักลงทุน เปรียบเสมือนเลขาส่วนตัวของลูกค้าที่สามารถลงทุนหุ้นและกองทุนผ่าน Yuanta NAVI ได้เลยสามารถตั้ง Personalized Alert ได้ตามใจนักลงทุน ซึ่งมี Features ให้เลือกอย่างละเอียดและหลากหลาย รวมถึงกระบวนการ ฝาก ถอน โอน และบริการอื่นอีกมากมาย ที่สะดวกรวดเร็วและปลอดภัย ในอนาคต ตั้งเป้าหมายให้ Yuanta NAVI เป็นแพลตฟอร์มอัจฉริยะที่ตอบโจทย์ Lifestyle การลงทุนของนักลงทุนทุกรูปแบบในทุก ๆ วัน เพื่อสร้างความมั่งคั่งอย่างยั่งยืน

3.บริษัทฯยังเป็นตัวแทนขายหน่วยลงทุนของเกือบทุกบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม มีการจัดทำ Fund Rating ที่อาศัยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ ตลอดจนมีผู้เชี่ยวชาญด้านกองทุนคอยให้คำแนะนำแก่ลูกค้าที่สนใจ

4.ธุรกิจวาณิชธนกิจ บริษัทฯเซ็นสัญญาในการเป็นที่ปรึกษานำบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯกว่า 10 บริษัท คาดว่าในปี 2565-2566 จะเสนอขาย IPO ไม่ต่ำกว่า 6 บริษัท มาร์เก็ตแคป  5,000-6000 ล้านบาท เน้นกลุ่มธุรกิจ ขนาดใหญ่ บริการ บรรจุภัณฑ์ เทรดดิ้ง  นอกจากนี้บริษัทยังเป็นที่ปรึกษาในการควบรวมและซื้อขายกิจการให้กับบริษัทไทยและบริษัทต่างประเทศที่ต้องการเข้ามาลงทุนในแถบ CLMV บล.หยวนต้าได้รับความสนับสนุนจากบริษัทในเครือที่มีอยู่ในหลากหลายประเทศ

5.บริษัทเป็นที่ปรึกษาในการออกและเสนอขายตราสารหนี้ ซึ่งในแต่ละปีมียอดการจำหน่ายให้กับลูกค้ามากกว่า 1 หมื่นล้านบาท

6.ด้านตราสารอนุพันธ์ บริษัทเป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์ DW หมายเลข 19  ปัจจุบันมีส่วนแบ่งตลาดสูงสุดเป็นอันดับสอง มีจุดเด่นการวางราคาที่เป็นธรรมสำหรับผู้ซื้อ และมีความรวดเร็วในระดับสูง

7.ธุรกิจบริหารการลงทุนเพื่อลูกค้า สามารถให้บริการทั้ง 2 รูปแบบคือ Portfolio Advisory (PA) และ Program Trading (PT)  โดย PA จะถูกตั้งค่าขอบเขตการลงทุน และคำแนะนำโดยอิงจากข้อมูลฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ ส่วน PT ของบริษัทจะใช้ Quantitative Model ซึ่งมีตั้งแต่การ Optimization ไปจนถึงการใช้ AI เป็นส่วนประกอบของโมเดล ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีเงินภายใต้การบริหารจัดการ (AUM) เกือบ 10,000 ล้านบาท  สามารถสร้างผลกำไรที่มีการควบคุมความเสี่ยง

“เวลท์ที่ให้บริการ เรามีความพร้อมถึง 80% จะต้องหาพาร์ทเนอร์ในการให้บริการขายประกัน กำลังศึกษาอยู่ สามารถทำธุรกิจร่วมกับบริษัทประกันภัยได้”

แนวโน้มการลงทุนจะยิ่งแคบลง ไม่มีประเทศเป็นตัวกั้น การเชื่อมต่อกับภูมิภาคและโลกจะมีความสำคัญมากขึ้น Cross border จะมีให้เห็นมากขึ้น บริษัทมั่นใจว่าการมีเครือข่ายหยวนต้าต่างประเทศ จะสามารถเชื่อมต่อ และนำเสนอผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่เชื่อมโยงกับตลาดต่างประเทศ เพื่อเพิ่มความหลากหลายให้กับนักลงทุนของไทยมากขึ้น

ส่วนการเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วของสินทรัพย์ดิจิทัล ตามเทคโนโลยี Blockchain อาทิ Digital Currency หรือ Digital Token นั้น บริษัทได้ให้ความสำคัญมาอย่างต่อเนื่อง ภายใต้ความร่วมมือกับตลาดหลักทรัพย์ฯ ผ่านการสนับสนุนในโครงการ ศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลไทย (TDX) ซึ่งน่าจะเริ่มดำเนินการได้ในอนาคตอันใกล้นี้

นางบุญพรกล่าวถึงหลักการทำงานว่า หยวนต้าไม่ได้เน้นเรื่องการเป็นอันดับหนึ่ง แต่ให้ความสำคัญกับการให้บริการมากกว่า และไม่ได้มุ่งเน้นกำไรสูงสุดเพียงอย่างเดียว องค์กรให้ความสำคัญกับเรื่อง ESG นักวิเคราะห์จะสนับสนุน ส่งเสริมบริษัทที่มี ESG เป็นหลัก มีการบริหารธุรกิจอย่างมีธรรมาภิบาล และความโปร่ง  วันนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี เรื่องคดีความที่เพิ่งจบไป ได้พิสูจน์ความบริสุทธิ์จากการถูกกล่าวหาอย่างไม่เป็นธรรมในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งศาลอุทธรณ์และศาลฎีกาได้มีคำตัดสินเป็นที่สุดโดยการยกฟ้องคำกล่าวหาทุกข้อกล่าวหา ไม่มีอะไรมาหยุดยั่งการพัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์และยกระดับบริการ และการเติบโตของหยวนต้า  ซึ่งจะมุ่งเน้นการพัฒนาทางด้านธรรมาภิบาลให้เด่นชัดยิ่งขึ้น ตั้งปณิธานที่จะตอบแทนสังคมให้มากที่สุด

ด้านนายภาดล วรรณรัตน์ หัวหน้าฝ่ายวิเคราะห์การลงทุน และผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ทิศทางตลาดหุ้นไทยในช่วงครึ่งปีหลังคาดว่าจะผ่านจุดต่ำสุดในช่วงไตรมาส 3 หลังจากสหรัฐเปิดเผยตัวเลข GDP ในวันที่ 28 ก.ค. และผ่านการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 26-27 ก.ค. คาดว่าเฟดปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.75%  ขณะเดียวกันคาดว่าเงินเฟ้อของหลายๆประเทศก็ผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว  จากราคาน้ำมันเริ่มปรับลดลง จึงแนะนำให้เริ่มเข้าสะสมหุ้นตั้งแต่ต้นเดือน ส.ค.นี้ และก.ย. ไตรมาสที่ 4 น่าจะขยับขึ้นได้ จึงแนะนำให้ปรับพอร์ต เพิ่มสัดส่วนในหุ้นเป็น 70% จากช่วงครึ่งปีแรกให้ลดน้ำหนักเหลือ 40% โดยแนะนำกลุ่มธนาคาร ค้าปลีก และกลุ่มที่เคยเสียประโยชน์จากการราคาน้ำมันพุ่งสูงในช่วงที่ผ่านมา

บล.หยวนต้าฯ ยังคงเป้าหมายดัชนี SET ปี 2565 ที่ 1,650 จุด พร้อมให้แนวรับที่ 1,550 จุด หากยืนไม่อยู่จะมีแนวรับต่ำสุดที่ 1,450 จุด