โดย..ณัฏฐะ มหัทธนา, CFA ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ
ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนและลูกค้าสัมพันธ์
บลจ.กรุงไทย
ECB โดนบีบให้ “ช็อกตลาด” ขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย 50 bps สู่ระดับ 0% สิ้นยุคดอกเบี้ยติดลบ นับเป็นการขยับแรงกว่าคาดเพื่อเบรกเงินเฟ้อ นอกจากนี้ ธนาคารกลางยุโรปยกเลิก forward guidance ที่เคยให้ไว้ โดยจะพิจารณาอัตราดอกเบี้ยตามสภาวการณ์ไปทีละ meeting อีกทั้งเผยมาตรการพร้อมใช้คุมยีลด์พันธบัตรชาติสมาชิกหนี้ท่วมอย่างอิตาลีซึ่งมีชื่อว่า Transmission Protection Instrument (TPI) ปลดล็อกเกณฑ์สัดส่วนการซื้อสินทรัพย์แบบเดิมๆ เพิ่มความยืดหยุ่นหากต้องเข้าแทรกแซงตลาด เงินยูโรพุ่งขึ้นแรงรับเซอร์ไพรส์แล้วกลับร่วงลงอย่างรวดเร็วระหว่างประธาน Lagarde แถลงข่าว จากนั้นค่อยๆฟื้นกลับมายืนแถว $1.02 คล้ายช่วงก่อนประชุม
Mario Draghi ลาออกจากนายกฯอิตาลี เพียงไม่กี่ชั่วโมงก่อนดอกเบี้ยขึ้น เปิดฉากความปั่นป่วนทางการเมืองรอบใหม่ในเศรษฐกิจใหญ่อันดับ 3 ของยูโรโซน หลังจากเงียบสงบ (ผิดปกติ) มานาน… ประธานาธิบดี Sergio Mattarella รับใบลาออกจาก Draghi แล้วก็ยุบสภา …ความไม่แน่นอนจึงบังเกิด… เพราะไม่รู้รัฐบาลใหม่หลังเลือกตั้งจะทำตัวเป็น “เด็กดี” ดำเนินนโยบายคลัง “ยั่งยืน” ตามใบสั่ง ECB ในเงื่อนไขการช่วยซื้อพันธบัตรหรือไม่?
“นับหนึ่งถึงจุดจบ” PMI ยูโรโซน ก.ค. (เบื้องต้น) < 50 พลิกหดตัวครั้งแรกตั้งแต่ ก.พ. 2021 สาเหตุสำคัญคือเงินเฟ้อพุ่งบั่นทอนกำลังซื้อ …เศรษฐกิจสภาพแย่ทำให้ ECB เข้มงวดได้ไม่นานจึงพยายาม front load ขึ้นดอกเบี้ยแรง “ช็อกตลาด” ลุ้นให้เงินเฟ้อลงเร็วๆ (เจ็บแต่จบ) แล้วในไม่ช้าก็คงต้องเตรียมลดดอกเบี้ยกลับลงมาเพื่อเยียวยาภาวะถดถอย
ข้ามไปฝั่งอเมริกา หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีทะยานนำดัชนีเขียวสดใส แม้โดนเทขายทำกำไรวันศุกร์แต่บทสรุปสัปดาห์ที่ผ่านมาก็บวกได้อย่างแข็งแกร่ง ตอกย้ำวิวของเรา “จุดต่ำสุดผ่านไปแล้ว” ทั้งตลาดหุ้น โภคภัณฑ์ คริปโต #ขาขึ้นแปลว่าขาขึ้น ขับเคลื่อนด้วยสภาพคล่องกลับคืนสู่ตลาดหลังนโยบายเฟดชัดเจน
เฟดขึ้นดอกเบี้ยมาไกล จนเหลือช่องให้ขึ้นต่อได้ไม่มากแล้ว ECB เพิ่งคิกออฟท่ามกลางสารพัดความเสี่ยงขาลง (downside risks) ทั้งดีมานด์หดหาย พลังงานไม่พอใช้ แถมการเมืองป่วน ตลาดจึงเข้าสู่โหมด “นับถอยหลัง” เริ่มเก็งว่าเมื่อไหร่เฟดจะหยุดขึ้นดอกเบี้ยและ ECB จะถอยนโยบายหันกลับไปผ่อนคลาย
Stagflation risk ความเสี่ยงเศรษฐกิจหดตัวในภาวะเงินเฟ้อสูงยังคงติดหนึบกับโลกตะวันตก เป็นปัจจัยหนุน “ทองคำ”
ราคาสินทรัพย์ (ซึ่งมองไปข้างหน้า) คงจะสะท้อน timeline อนาคต “นับถอยหลังสู่ดอกเบี้ยขาลง” เราย้ำโอกาสซื้อกองทุนที่เกี่ยวข้องกับทองคำแบบสวน consensus โดยทยอยสะสม KT-GOLD และ KT-PRECIOUS
“หุ้นยุโรป” น่าสนใจลงทุนยิ่งขึ้น ด้วย catalysts สำคัญคือ ความเป็นไปได้ที่อียูอาจจะเริ่มหาทางเจรจาไกล่เกลี่ยกับรัสเซียก่อนเข้าสู่ฤดูหนาว (เพราะพลังงานไม่พอใช้สร้างความอบอุ่น) เราเลือกสะสม KT-EUROTECH เป็นหลักเพราะอุดมไปด้วยหุ้น quality growth เทคโนโลยีระดับ world class ณ ราคาถูกแบกะดินแบบนี้คงหาซื้อแทบไม่ได้ในภาวะปกติ
ไอเดียกองทุนรวมมีให้ทุกวัน ผู้สนใจเชิญรับชม Fund Today by KTAM ทุกเช้าวันทำการเริ่มเวลา 8:45 น. สามารถพิมพ์คำถามทางไลฟ์ Facebook: KTAM Smart Trade, Youtube: KTAM TV ONLINE หรือรับฟังและร่วมพูดคุยใน Clubhouse: KTAM Smart Trade สดพร้อมกันสามช่องทาง นอกจากนี้ดูคลิปย้อนหลังได้ทั้ง Youtube และ Facebook
#คุยทุกวันฟันทุกเช้า #ฟันทูเดย์845
คำเตือน: ความเห็นส่วนบุคคล ไม่ใช่คำแนะนำการลงทุน ผลการดำเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน คู่มือการลงทุน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน