ดาวโจนส์ปิดลบ 137 จุด ผิดหวังผลประกอบการ Snap

HoonSmart.com>> ตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดร่วง ดัชนีดาวโจนส์ลบ 137 จุด นักลงทุนผิดหวังผลการดำเนินงาน Snap โซเชียลมีเดียไม่สดใสฉุดราคาหุ้นร่วงแรง กดหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีอ่อนตัวลง จับตาบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่รายงานสัปดาห์หน้า ราคาน้ำมันดิบปรับลงต่อ ด้านตลาดหุ้นยุโรปปิดบวก

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) วันที่ 22 กรกฎาคม 2565 ปิดที่ 31,899.29 จุด ลดลง 137.61 จุด หรือ 0.43% ด้วยความผิดหวังจากผลการดำเนินงานของ Snap ส่งผลให้กลุ่มเทคโนโลยีอ่อนตัวลงหลังปรับตัวขึ้นติดกัน 3 วัน

ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,961.63 จุด ลดลง 37.32 จุด, -0.93%

ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,834.11 จุด ลดลง 225.50 จุด, -1.87%

แต่ในรอบสัปดาห์นี้ ทั้ง 3 ดัชนียังปิดบวก โดยดัชนีดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 2%, ดัชนี S&P500 เพิ่มขึ้น 2.4% และดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้นขึ้น 3.3%

ผลการดำเนินงานรายไตรมาส ของ Snap โซเชียลมีเดียที่ไม่สดใสทำให้ราคาหุ้นลบ 39% และมีผลต่อดัชนี Nasdaq แม้ยอดขายจะพลาดเป้าเล็กน้อย แต่การให้ความเห็นประกอบผลการดำเนินงานของบริษัทเกี่ยวกับตลาดโฆษณาโดยรวมและการที่ไม่คาดการณ์แนวโน้มทำให้นักลงทุนกังวล อีกทั้งบริษัทยังระบุว่ายอดขายไตรมาสสามน่าจะทรงตัวจากระยะเดียวกันของปีก่อน

หุ้นโซเชียลมีเดียและเทคโนโลยีอื่นลดลง โดยหุ้น เมตา แพลตฟอร์มสซึ่งจะรายงานผลการดำเนินงานไตรมาสสองในสัปดาห์หน้าลดลง 7.6% หุ้นอัลฟาเบท ลดลง 5.6% หุ้นทวิตเตอร์บวกขึ้น 0.8% แม้ผลการดำเนินงานต่ำกว่าคาด

หุ้นเวอไรซอน คอมมิวนิเคชัน ลดลง 6.8% หลังปรับลดคาดการณ์ผลกำไรทั้งปีลง ด้วยแรงกดดันจากเงินเฟ้อมีผลต่การเติบโตของยอดสมาชิก

หุ้นอเมริกัน เอกซ์เพรส เพิ่มขึ้น 1.9% จากผลประกอบการที่แข็งแกร่ง และปรับเพิ่มคาดการณ์รายได้ โดยซีอีโอของบริษัทกล่าวว่า ไม่เห็นสัญญานเศรษฐกิจถดถอย

อย่างไรก็ตามตลาดยังกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจ หลังจากการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่ไม่สดใสเมื่อวานนี้ โดย เอสแอนด์พี โกลบอลรายงาน ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและภาคบริการเบื้องต้นเดือนกรกฎาคมปรับตัวลงสู่ระดับ 47.5 ต่ำสุดในรอบกว่า 2 ปี จาก 52.3 ในเดือนมิถุนายน และบ่งชี้ว่าภาวะหดตัว

ดัชนี PMI ภาคการผลิตเบื้องต้น อยู่ที่ 52.3 ต่ำสุดในรอบ 24 เดือน จาก 52.7 ในเดือนมิถุนายน ส่วนดัชนี PMI ภาคบริการเบื้องต้น อยู่ที่ 47.0 ต่ำสุดในรอบ 26 เดือน จาก 52.7 ในเดือนมิถุนายน

นักลงทุนจะจับตาการเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ ในสัปดาห์หน้า ทั้งเมตาแพลตฟอร์ม อัลฟาเบท แอปเปิล, ไมโครซอฟต์ และแอมะซอน รวมไปถึงจับตาการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และการรายงานข้อมูลผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 2

ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวเพิ่มขึ้น นำโดยกลุ่มเดินทางและสันทนาการที่เพิ่มขึ้น 2.4% ขณะที่นักลงทุนยังคงวิเคราะห์ผลที่จะเกิดขึ้นจากการปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.50% ของธนาคารกลางสหภาพยุโรป รวมทั้งเกาะติดการรายงานผลประกอบการและข้อมูลเศรษฐกิจ

นอกจากนี้ ECB ยังได้นำกลไกใหม่ที่เรียกว่า Transmission Protection Instrument (TPI)มาใช้ เพื่อช่วยเหลือประเทศในยูโรโซนที่มีปัญหาหนี้จำนวนมาก

ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและภาคบริการเบื้องต้นเดือนกรกฎาคมยุโรปปรับตัวลงทั้งภูมิภาคสู่ระดับ 49.4 ส่วนดัชนี PMI ของอังกฤษอยู่ที่ 52.8 ลดลงจาก 53.7ในเดือนมิถุนายนและต่ำกว่า 53.0 ที่นักวิเคราะห์คาด ส่วนดัชนี PMI ของเยอรมนีและฝรั่งเศสต่างก็อ่อนตัว

ความเชื่อมั่นผู้บริโภคในอังกฤษเดือนกรกฎาคมลดลงมาที่ -41 เท่ากับระดับเดือนมิถุนายนที่ต่ำสุดในรอบ 48 ปี ส่วนยอดค้าปลีกเดือนมิถุนายนลดลง 0.1%

เงินยูโรยังซื้อขายที่ระดับราว 1.02 ต่อดอลลาร์ นักลงทุนยังเกาะติดสถานการณ์ในภูมิภาค

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 425.71 จุด เพิ่มขึ้น 1.32 จุด, +0.31%

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,276.37 จุด เพิ่มขึ้น 5.86 จุด, +0.08%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,216.82 จุด เพิ่มขึ้น 15.71 จุด, +0.25%

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 13,253.68 จุด เพิ่มขึ้น 7.04 จุด, +0.05%

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนกันยายน ลดลง 1.65 ดอลลาร์ หรือ 1.7% ปิดที่ 94.70 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนืองวดส่งมอบเดือนกันยายนลดลง 66 เซนต์ หรือ 0.6% ปิดที่ 103.20 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล