หุ้นจะร่วง 1,525 หรือขึ้น 1,580 สัปดาห์หน้า จับตามติเฟด กำไรบจ.

HoonSmart.com>>บล.กสิกรไทยมองหุ้นสัปดาห์ถัดไป ให้แนวรับที่ 1,535 และ 1,525 จุด ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 1,565 และ 1,580 จุด ตามลำดับ ด้านค่าเงินบาท ธนาคารกสิกรไทยมองกรอบเคลื่อนไหวที่ 36.40-37.20 บาทต่อดอลลาร์ฯ หลังจากแตะ 36.95 บาท อ่อนค่าสุด 15 ปี 9 เดือน นับตั้งแต่เดือนต.ค. 49 

บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทยมองหุ้นสัปดาห์ถัดไป (25-29 ก.ค.) ดัชนีหุ้นมีแนวรับที่ 1,535 และ 1,525 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,565 และ 1,580 จุด ตามลำดับ

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ การประชุมเฟด (26-27 ก.ค.65) ผลประกอบการงวด 2Q/65 ของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ทิศทางเงินทุนต่างชาติ รวมถึงสถานการณ์โควิด

ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ยอดขายบ้านใหม่ ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน รายได้และรายจ่ายส่วนบุคคล ดัชนี PCE/Core PCE Price Index เดือนมิ.ย. รวมถึงตัวเลขจีดีพี 2Q/65 ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศอื่นๆ ได้แก่ ดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนก.ค. (เบื้องต้น) และตัวเลขจีดีพี 2Q/65 ของยูโรโซน รวมถึงกำไรบริษัทอุตสาหกรรมเดือนมิ.ย. ของจีน

ในวันศุกร์ (22 ก.ค.) ดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,552.73 จุด เพิ่มขึ้น 1.26% จากสัปดาห์ก่อน ขณะที่มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 55,613.34 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.96% ส่วนดัชนี mai เพิ่มขึ้น 1.93% มาปิดที่ 575.66 จุด

ตลาดหุ้นทยอยปรับตัวขึ้นจากสัปดาห์ก่อน ช่วงต้นสัปดาห์ปรับขึ้นตามทิศทางตลาดหุ้นต่างประเทศ หลังนักลงทุนกลับมาประเมินว่า เฟดอาจปรับขึ้นดอกเบี้ยเพียง 0.75% ในการประชุมรอบ ก.ค. นี้ อย่างไรก็ดีแรงเทขายของกลุ่มนักลงทุนสถาบันและต่างชาติกดดันตลาดช่วงสั้นๆ  แต่ดัชนีหุ้นพลิกกลับมาปรับตัวขึ้นอีกครั้งในช่วงที่เหลือของสัปดาห์ โดยมีแรงหนุนจากแรงซื้อคืนหุ้นหลายกลุ่ม ทั้งเทคโนโลยี ไฟแนนซ์และแบงก์ ซึ่งรับอานิสงส์จากผลประกอบการไตรมาสล่าสุดที่ออกมาค่อนข้างดี ทั้งนี้ปริมาณการซื้อ-ขายในระหว่างสัปดาห์ค่อนข้างเบาบางเนื่องจากตลาดรอติดตามผลการประชุมเฟดอย่างใกล้ชิด

ส่วนแนวโน้มค่าเงินบาทสัปดาห์ถัดไป (25-29 ก.ค.) ธนาคารกสิกรไทยมองกรอบการเคลื่อนไหวที่ 36.40-37.20 บาทต่อดอลลาร์ฯ หลังจากเงินบาทอ่อนค่าไปแตะ 36.95 บาทต่อดอลลาร์ฯ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นระดับอ่อนค่าสุดนับตั้งแต่เดือนต.ค. 2549 (ในรอบเกือบ 15 ปี 9 เดือน) ท่ามกลางทิศทางที่แข็งแกร่งของค่าเงินดอลลาร์ฯ ซึ่งได้รับแรงหนุนจากแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของเฟด ประกอบกับภาพรวมของสกุลเงินในเอเชียก็เผชิญแรงกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับสัญญาณอ่อนแอของเศรษฐกิจโลก รวมถึงความเสี่ยงของเศรษฐกิจและสถานการณ์โควิดในจีน ซึ่งกดดันให้เงินหยวนอ่อนค่าลง

อย่างไรก็ดี เงินบาทและสกุลเงินส่วนใหญ่ในภูมิภาคฟื้นตัวกลับมาได้บางส่วนในช่วงปลายสัปดาห์ท่ามกลางแรงขายเงินดอลลาร์ฯ เพื่อปรับโพสิชันก่อนการประชุมนโยบายการเงินของเฟดในวันที่ 26-27 ก.ค. นี้

ในวันศุกร์ที่ 22 ก.ค. 2565 เงินบาทปิดตลาดที่ระดับ 36.70 (ระหว่างสัปดาห์ แตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบ 15 ปี 9 เดือน ที่ 36.95) เทียบกับระดับ 36.61 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (15 ก.ค.) ขณะที่ระหว่างวันที่ 18-22 ก.ค. นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิหุ้นไทย 889 ล้านบาท ขณะที่มีสถานะเป็น NET OUTFLOW ออกจากตลาดพันธบัตร 3,534 ล้านบาท (ขายสุทธิพันธบัตรไทย 2,455 ล้านบาท และมีตราสารหนี้ที่หมดอายุ 1,079 ล้านบาท)